เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Organic : Alternative Life หรือ เกษตรอินทรีย์ กับชีวิตที่เลือกได้ โดยมีนายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมพงศ์ อ่อนประเสริฐ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นางนูรอ โซ๊ะมณี เสต๊ปเป้ เชฟกิตติมาศักดิ์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม ร้านของฝากที่ระลึก สปา ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น กิจกรรมการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการ การแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์เพื่อส่งเสริมการตลาด โดยการออกบู๊ธแสดงสินค้า จำนวน 30 บูธ เป็นต้น
นายสมพงศ์ กล่าวว่า เป้าหมายในการจัดทำโครงการดังกล่าวเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอินทรีย์ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และต่างประเทศ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทำให้เกิดการตื่นตัวและกระตุ้นให้ประชาชนนิยมบริโภคเพื่อสุขภาพ รวมถึงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนให้มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผู้ประกอบการรวมทั้งข้อมูลทางด้านการตลาดที่ทันสมัย สามารถใช้ในการจัดทำแผนงานด้านการตลาด เชิงรุก ส่งผลให้ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก รวมทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนสามารถใช้ประโยชน์ได้ ขณะเดียวกันเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงความสำคัญ โอกาสทางการตลาด และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยว ด้วยมาตรฐานด้านความปลอดภัยเรื่องอาหาร โดยให้กลุ่มเป้าหมายร่วมขับเคลื่อนการนำเกษตรอินทรีย์สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ อาทิ เมนูอาหารจากเกษตรอินทรีย์ สปาอินทรีย์ จัดมุมจำหน่ายสินค้าอินทรีย์ และร้านอาหารอินทรีย์ เป็นต้น
ขณะที่นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้สนับสนุนเกษตรอินทรีย์มาตั้งแต่ปี 2550 ทำให้ขณะนี้มีเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ 30 – 40 จังหวัด เพื่อผลักดันเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยภาคเหนือมุ่งเน้นเกษตรอินทรีย์ที่เป็นสมุนไพร ภาคอีสานเรื่องข้าว ภาคกลางเน้นผลไม้ และภาคใต้มีความโดดเด่นเรื่องธุรกิจบริการที่เป็นเกษตรอินทรีย์ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา โดยเฉพาะภูเก็ตจะทำตลาดบริการเกษตรอินทรีย์ หรือ organic ค่อนข้างดี และโรงแรม สปา ในภูเก็ตหลายๆ แห่งเป็น organic มากกว่าในต่างประเทศ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดเด่นที่จะนำผลผลิตเกษตรอินทรีย์สู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นต่างชาติมากขึ้น
“กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเกษตรอินทรีย์ (Hub organic) ในเอเซียน ภายใน 4 – 5 ปีจากนี้ ด้วยการส่งเสริมตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยมีการนำผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ในประเทศไปพบปะกับผู้ซื้อทั้งในยุโรป อังกฤษ เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งสินค้าของไทยได้รับการตอบรับที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว สบู่ ที่ใช้ในกิจการสปา ซึ่งสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยมีช่องทางและโอกาสในการทำตลาดต่างประเทศ เช่น ยุโรป สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน สเปน เป็นต้น ส่วนของตลาดในประเทศจะมีการจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 4 – 5 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ซึ่งจะเป็นการรวมผลผลิตเกษตรอินทรีย์ทั้งหมดภายในประเทศ พร้อมส่งเสริมร้านที่เป็น organic shop โมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้มีมุมที่เป็น organic ด้วย”
นางพิมพาพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้รายได้ที่เกิดจากการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ทุกระดับ ไม่ต่ำกว่าปีละ 6,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นปีละ 10% คาดว่าภายใน 5 ปี รายได้ที่เกิดจากการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ปีละไม่ต่ำกว่า 8,000 – 9,000 ล้านบาท โดยมีตลาดในประเทศเป็นตลาดหลัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น