จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ช่างกลึงใช้ปืนปากกายิงแสกหน้าฆ่าตัวตาย



เมื่อช่วงดึกของวันที่ 10 ตุลาคม 2555 พ.ต.ท.อเนก มงคล สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุยิงกันตายภายในบ้านเช่าเลขที่ 67/22 ซ.ภูเก็ตโรงโฟม หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก. พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต 


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าชั้นเดียวซึ่งปลูกเรียงรายกันนับสิบห้อง บริเวณห้องโถงภายในบ้านพบศพชายไทย ทราบชื่อนายมนเทียร เงินมาก อายุ 44 ปี มีอาชีพเป็นช่างกลึง บ้านเดิมอยู่ที่ 67/7 หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีครีม นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ศีรษะติดอยู่กับเตียงนอน บริเวณกลางหน้าผากมีรอยกระสุนทะลุด้านหลังศรีษะ นอกจากนี้ยังพบปืนปากกาไทยประดิษฐ์ตกอยู่ที่พื้นด้านมือขวาของผู้ตาย ตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน โดยบนเตียงนอนพบหัวกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับนำปืนปากกาไทยประดิษฐ์กลับไปตรวจหาวิถีกระสุน นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีนางสมจิตต์ แซ่อุ๋ย อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย นั่งร้องไห้กอดลูกชายวัย 11 ขวบ เบื้องต้นนางสมจิตต์ให้การว่านายมนเทียรใช้ปืนปากกากระบอกดังกล่าวยิงตัวตาย 


จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนางสมจิตต์ ทราบว่า นายมนเทียรมีอาชีพเป็นช่างกลึงและเป็นหนึ่งในเซียนพระ ก่อนเกิดเหตุนายมนเทียรนั่งดูทีวีอยู่ในห้องโถงเพียงลำพัง ส่วนตนเองและลูกชายนอนพักอยู่ในห้องนอนที่อยู่ติด ไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 ครั้งจึงวิ่งออกมาดู เห็นร่างสามีนอนจมกองเลือด มือขวากำปืนปากกาและเสียชีวิตแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจึงฆ่าตัวตาย เพราะที่ผ่านมาสามีก็ไม่ได้เล่าปัญหาอะไรให้ฟังและไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน ยกเว้นจะบ่นเรื่องของสุขภาพซึ่งมีอาการปวดหัวเนื่องจากไมเกรน ส่วนของปืนปากกาที่สามีใช้ก่อเหตุก็ไม่รู้มาก่อน 


อย่างไรก็ตามจากการชันสูตรบาดแผลซึ่งเป็นรอยกระสุนยิงกลางหน้าผากผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจขัดแย้งกับการยิงตัวเองตาย เนื่องจากปืนปากกามีขนาดเล็กกลมยาว บรรจุกระสุนปืนได้เพียง 1 นัด และการที่จะใช้จ่อยิงหน้าผากก็เป็นการยาก และการยิงตัวตายของคนทั่วไปก็มักจะใช้ปือจ่อขมับหรือกระทั่งยิงกรอกปากตัวเอง ซึ่งก็คงต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป 

ด้านพ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้มีการตรวจสอบพยานแวดล้อมแล้ว และสอบปากคำพยาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องมาจากมีความเครียดส่วนตัว ประกอบกับคำบอกเล่าของลูกชายผู้ตายซึ่งบอกว่าเคยเห็นปืนกระบอกดังกล่าวและจะนำเล่นแต่พ่อห้ามไม่ให้เล่น ส่วนในเรื่องเซียนพระนั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะจากการสอบถามภรรยาบอกว่าเป็นคนออกมาพบศพคนแรก และได้เปิดประตูบ้านออกไปเรียกตำรวจซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันให้มาช่วย และสภาพศพที่พบในที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่ลักษณะของการยิงมาจากภายนอก 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น