เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2556 ที่ห้องประชุมระเงง ตึกกัลปพฤกษ์ โรงเรียนวิชิตสงคราม ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรมครูโครงการรู้ทันวัยทีน ซึ่งจัดโดยสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย – ภูเก็ต
โดยมีนางวิภาพรรณ คูสุวรรณ รองประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต นางจันทรา กุลวีระอารีย์ นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย – ภูเก็ต สมาชิกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต คณะวิทยากร ตลอดจนคุณครู อาจารย์ เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้
นางจันทรา กุลวีระอารีย์ นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต กล่าวว่า จากปัญหาเยาวชนไทยท้องก่อนวัยอันควร ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จากสถิติในปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราสูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน ทางสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะที่ทำประโยชน์เพื่อสตรีและเด็ก
จึงได้จัดทำโครงการ “รู้ทันวัยทีน” ขึ้น เพื่อเสนอองค์ความรู้พื้นฐาน แนวคิดในเรื่องเพศวิถี ปรับทัศนคติค่านิยมเรื่องเพศที่เหมาะสม และมุมมองในการพัฒนาเยาวชนที่เน้นการค้นหาและพัฒนาศักยภาพของเยาวชน
โดยในปี 2555 ทางสธวท.ภูเก็ต จึงได้จัดทำคู่มือรู้ทันวัยทีน จำนวน 23,000 เล่ม แจกให้แก่เยาวชนทั่วประเทศ และในปี 2556 ทางสมาคมได้รับงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดภูเก็ต กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำปี 2556
สำหรับใช้จัดการอบรมให้แก่นักเรียนจำนวน 150 คน และครูจำนวน 100 คน โดยทางสมาคมได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญการสอนเพศศึกษารอบด้าน โดยใช้หลักสูตรจากองค์การแพทย์ (ประเทศไทย) ที่ใช้กระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ด้านนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า จากปัญหาเยาวชนไทยท้องก่อนวัยอันควร เป็นเรื่องที่ทางจังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ จากสถิติของจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 – มกราคม 2556 เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี มีการคลอดบุตรจำนวน 913 คน
และเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีเด็กคลอดบุตรและไปขอความช่วยเหลือจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต มีอายุเพียง 12 ปี จะเห็นว่าอายุเด็กที่คลอดบุตรน้อยลงกว่าที่ผ่านมา ปัญหานี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องเข้าช่วยกันแก้ไข และการจัดโครงการนี้ คุณครูที่เข้ารับการอบรมจะได้เพิ่มพูนทักษะชีวิตและนำวิชาชีวิตนี้ติดตัวไว้ใช้ในการสอนลูกศิษย์ และลูกหลาน นับว่าเป็นแนวทางที่ดีควรที่จะส่งเสริมสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น