เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมมะฮอกกานี โรงเรียนสตรีภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมชาย เครือแพทย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ.ภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ "บันทึกนักประหยัดตัวน้อย" ซึ่งทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีนายกิตติ พฤติสืบ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต คณะครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ของโรงเรียนสตรีภูเก็ต จำนวน 100 คน เข้าร่วม
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นนั้น เป็นรูปแบบของวอร์คแรลลี่ โดยแบ่งฐานให้ความรู้ออกเป็น 5 ฐาน ประกอบด้วย ฐานที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ PEA และความเป็นมาด้านการผลิต ส่ง และจำหน่ายไฟฟ้า ฐานที่ 2 อันตรายจากการใช้ไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยในช่วงภัยพิบัติ ฐานที่ 3 การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฐานที่ 4 การดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้น และฐานที่ 5 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ถูกฟ้าดูด
ทั้งนี้การบรรยายในแต่ละฐานจะให้นักเรียนทำข้อสอบ เพื่อประเมินผลความรู้ไปด้วย และหลังจากผ่านการอบรมไปแล้ว จะมีการติดตามผลจากการบันทึกลงในสมุดบันทึกนักประหยัดตัวน้อยถึงวิธีการประหยัดไฟฟ้าของนักเรียน โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะร่วมกับทางโรงเรียนติดตามผลเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2556
นายวิจารณ์ ช่วยปลอด ผู้ชำนาญการระดับ 9 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จัดทำโครงการ "บันทึกนักประหยัดตัวน้อย"โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ จำนวน 6,000 คน เพื่อแนะนำให้นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้า รู้จักใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดปลอดภัย และถูกวิธี รู้จักใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
รวมทั้งช่วยแนะนำผู้ปกครอง ร่วมกันประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้ส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งในการจัดทำโครงฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกับโรงเรียนสตรีภูเก็ต ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ปกครอง เข้าร่วมโครงการฯ ช่วยสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการใช้ไฟฟ้าหลังจากที่ผ่านการอบรมแล้ว และช่วยบันทึกลงในสมุดบันทึกนักประหยัดด้วย
ขณะที่นายสมชาย เครือแพทย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อรณรงค์ให้นักเรียนได้รู้วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และปลอดภัย ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยปลูกจิตสำนึกการประหยัดพลังงานให้แก่น้องๆ นักเรียน
โดยเริ่มจากในโรงเรียน และต่อเนื่องถึงที่บ้าน ช่วยแนะนำผู้ปกครอง และเป็นแบบอย่างให้กับสมาชิกในครอบครัว เพื่อช่วยกันประหยัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวลงอีกทางหนึ่งด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น