จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

ลุ้นขอใช้พื้นที่สวนป่าบางขนุนสร้างมัสยิดกลาง



เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555 ที่บริเวณสวนป่าบางขนุน ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ลงตรวจพื้นที่ฝังศพหรือกุโบร์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ซึ่งอยู่ในพื้นที่สวนป่าบางขุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และพื้นที่ซึ่งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ตขออนุญาตใช้สำหรับการก่อสร้างศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาและมัสยิดกลางเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา โดยมีนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ จ.ส.ต.โกมล ดุมลักษณ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดภูเก็ตและกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย นายไชยผดุง พรหมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมนำตรวจพื้นที่
จ.ส.ต.โกมล ดุมลักษณ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดภูเก็ตและกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า จากการที่ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประสานงานร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต ในการขอใช้พื้นที่สวนป่าบางขนุนจัดทำที่ฝังศพ(กุโบร์) ซึ่งปัจจุบันดำเนินการอยู่แล้วและการขออนุญาตใช้พื้นที่สำหรับก่อสร้างมัสยิดกลางจังหวัดภูเก็ต โดยได้รับการตอบรับจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและทางป่าไม้ จึงได้มีการลงมาสำรวจพื้นที่เพื่อนำข้อมูลไปเสนอขอรับความเห็นชอบจากทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง
สำหรับการก่อสร้างมัสยิดกลางนั้นใช้ชื่อโครงการว่าศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาและมัสยิดกลางเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา เนื้อที่ประมาณ 19 ไร่เศษ เพื่อรองรับการปฏิบัติศาสนกิจและบริการพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั้งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะในช่วงที่จะต้องเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ แทนการใช้อาคารของท่าอากาศยานภูเก็ตซึ่งค่อนข้างคับแคบและแออัด ตลอดจนรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยขณะนี้ได้ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ระยะแรกในส่วนของอาคารมัสยิดกลางใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนระยะที่ 2 จะเป็นอาคารบริการซึ่งจะใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท รวม 250 ล้านบาท ซึ่งเมื่อได้รับการอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้วก็สามารถที่จะดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปีนี้ จ.ส.ต.โกมลกล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น