เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ที่ห้องประชุมโรงแรม บันยันทรี ภูเก็ต ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ภูเก็ต นายราวี ชานดราน กรรมการผู้จัดการ ลากูน่า ภูเก็ต ได้ทำการเปิดตัว “ซีดลิงค์ ภูเก็ต” โดยมีคุณเดวิท ซีท ผู้ช่วยอาวุโสรองประธานกรรมการ คณะผู้บริหารโรงแรมในเครือ ลากูน่า ภูเก็ต เยาวชนในพื้นที่จำนวน 15 คน และสื่อมวลชนในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
พร้อมกันนี้ได้มีการ่วมเสวนาในหัวข้อ “ธุรกิจเพื่อสังคมและการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชน” โดย นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางแคลร์ เชียง ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มโรงแรมในเครือบันยัน ทรี และประธานมูลนิธิบันยันทรี โกล-บอล ฟาวเดชั่น รศ.ดร.ปรารถนา กาลเนาวกุล คณบดีคณะการบริการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นางสาวปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นักสื่อสารชำนาญการและผู้ประกาศข่าวช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งดำเนินรายการโดยคุณแพร สุนันทารักษ์ ผู้อำนวยการแผนกชุมชนสัมพันธ์ ลากูน่า ภูเก็ต
ทั้งนี้นายราวี ชานดราน กรรมการผู้จัดการ ลากูน่า ภูเก็ต ได้กล่าวว่า โครงการ “ซีดลิงค์ ภูเก็ต” จะเป็นโครงการธุรกิจเพื่อสังคมล่าสุดของกลุ่มลากูน่า ภูเก็ต ในรูปแบบร้านอาหารแห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้การบริหารจัดการโดยกลุ่มบันยันทรี เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องการโอกาสทางสังคมและการศึกษา โดยการอบรมใช้เวลาทั้งสิ้น 18 เดือน
แบ่งเป็นการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่ม และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเชิงลึก โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดดำเนินกิจการ “ซีดลิงค์ ภูเก็ต” ธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบร้านอาหารแห่งแรก ณ ลากูน่า ภูเก็ต และแห่งที่สองภายใต้การกำกับดูแลโดยกลุ่มบันยันทรี ในปี พ.ศ. 2558 โดยมีโครงการต้นแบบ ณ ลากูน่า ลังโค ประเทศเวียดนาม ภายใต้ชื่อ ซีดลิงค์ ฮอยอัน (Seedlings Hoi An) ซึ่งเปิดดำเนินกิจการเมื่อปี พ.ศ. 2556
“กลุ่มเยาวชนผู้ต้องการโอกาสทางสังคมและการศึกษาจำนวน 15 คน ได้รับคัดเลือกมาเป็นตัวแทนกลุ่มแรกในหลักสูตรฝึกอบรมซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน โดยช่วงแรกเป็นการฝึกอบรมการบริการอาหารและเครื่องดื่มกับโรงแรมบันยันทรี ภูเก็ตและโรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต เป็นเวลา 9 เดือน และการฝึกปฏิบัติงานที่ร้านอาหารซีดลิงค์ ภูเก็ตเป็นเวลา 9 เดือน เรามีความตั้งใจจะเปิดร้านอาหารซีดลิงค์ ภูเก็ตภายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เยาวชนผู้ร่วมโครงการจะได้เริ่มฝึกอบรมในช่วงที่สอง” นายราวี กล่าว
ด้านนางแคลร์ เชียง ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มโรงแรมในเครือบันยันทรี และประธานมูลนิธิบันยันทรีโกลบอล ฟาวเดชั่น มั่นใจว่าโครงการซีดลิงค์ ภูเก็ตสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ ซึ่งเมื่อครั้งลากูน่า ลังโค เปิดตัวโครงการซีดลิงค์ ฮอยอัน ในพ.ศ. 2556 นั้น เราเชื่อมั่นว่าโครงการฯ จะสามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร สร้างทักษะและประสบการณ์อันประเมินค่ามิได้ และเป็นการมอบโอกาสที่เยาวชนเหล่านี้อาจจะไม่ได้รับหากไม่มีผู้ใดหยิบยื่น
“จนถึงวันนี้ ซีดลิงค์ ฮอยอัน มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 30 คน ในขณะที่ตัวร้านอาหารเองได้กลายเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ประสบความสำเร็จและพึ่งพาตัวเองได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ซีดลิงค์ ภูเก็ต ก็จะเป็นเช่นนั้น เราเชื่อในการสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจ บันยันทรีมีอายุ 20 ปี ลากูน่า ภูเก็ต 27 ปี สำหรับเราแล้ว ภูเก็ตคือบ้าน นั่นทำให้โครงการนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อเรา” นางแคลร์ กล่าว
โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางโครงการได้เปิดรับสมัครเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมสมัครกว่า 80 คน ซึ่งทางโครงการได้ทำการคัดเลือกจนกระทั้งได้เยาวชนเข้าร่วมโครงการ 15 คน ซึ่งผ่านการสัมภาษณ์ การปฐมนิเทศ และการเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกอบรมในหลักสูตร 18 เดือน ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ทาง ลากูน่า ภูเก็ต ได้ร่วมพัฒนาหลักสูตรกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในการประกอบอาชีพด้านการบริการ ตามมาตรฐานแห่งประชาคมอาเซียนด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น