เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท. รอง ผบ.ตร. (ปป1) พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ซีสตาร์ 29 ชนกับเรือประมงอวนลาก สินพิชัย 11 บริเวณกองหินหมูสังห่างจากเกาะพีพี อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังสูญหายจำนวน 2 คน เพื่อมอบกระเช้าผลไม้และช่อดอกไม้ และเดินทางไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต
ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีเรือ ต.814 (เรือคุณพุ่ม) ลอยลำค้นหาผู้สูญหายอยู่ โดยได้มีการพบปะหารือกับนายลี มิน หัวหน้ากงสุลเกาหลีใต้และนายทศพร เทพบุตร กงสุลกิตติมศักดิ์เกาหลีใต้ประจำ จ.ภูเก็ต ซึ่งได้เดินทางไปยังเรือคุณพุ่มก่อนหน้านี้ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหาย รวมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ตและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ในขณะที่การค้นหาก็ยังดำเนินการต่อไป
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกับผู้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต ว่าได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มาเยี่ยมให้กำลังใจกับผู้ประสบเหตุ ตลอดจนติดตามสถานการณ์และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ รวมทั้งการค้นหาผู้ที่ยังสูญหายอีก 2 ราย ซึ่งในการค้นหานั้นต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจน้ำ ซึ่งได้นำเรือตรวจการณ์ 2 ลำ คือ เรือเร็วตรวจการณ์ รน.77 กับเรือตรวจการณ์ขนาดใหญ่ 80 ฟุต คือ เรือ ต. 814 หรือเรือคุณพุ่ม
“ในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำชับมาตรการหลักๆ ได้แก่ ต่อจากนี้ในการนำเรือออกจากท่าเทียบเรือต่างๆ หรือการสัญจรทางน้ำ จะต้องมีการเข้มงวดทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของกรมเจ้าท่า ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร โดยการบรรทุกผู้โดยสารจะได้ไม่เกินจากที่กำหนด ซึ่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครประจำท่าเทียบเรือสำคัญๆ, จะต้องมีเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่สามารถใช้งานได้อย่างเพียงพอ รวมทั้งจะต้องสวมใส่ในขณะนั่งอยู่บนเรือด้วย,
คนขับเรือและนายท้ายเรือจะต้องมีความพร้อม ทั้งสภาพร่างกายและจะต้องมีใบประกาศนายท้ายเรือ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความชำนาญและเชี่ยวชาญเกี่ยวกับร่องน้ำต่างๆ ตลอดจนความพร้อมของเรือ หากไม่พร้อมจะไม่สามารถนำเรือออกไปได้ และสุดท้าย คือ เครื่องมือสื่อสารที่จำเป็นกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะมีการประสานงานและติดตามร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ โดยมีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ทำหน้าที่ควบคุมกำกับดูแล ร่วมกับตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครอง และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขับเคลื่อนและดำเนินการในส่วนของการค้นหาผู้สูญหาย ส่วนของการสอบสวนขณะนี้ได้ตั้งข้อกล่าวหากับนายสุรัตน์ มาศโอสถ อายุ 36 ปี กัปตันเรือแล้ว ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือได้รับอันตรายสาหัส แต่หากค้นหาจนพบผู้ที่สูญหายและเสียชีวิตก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ข้อหากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตต่อไป
อย่างไรก็ตามหากผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว และยังค้นหาผู้สูญหายไม่เจอนั้น พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้จะหาเรือกับทางกงสุลของประเทศเกาหลีอีกครั้ง ซึ่งได้มีนัดหมายหารือกันบริเวณที่เกิดเหตุในทะเล เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ในการค้นหาอย่างเต็มกำลังความสามารถทั้งภาคพื้นน้ำ อากาศ และพื้นดินที่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยังสถานพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น