จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทอท.หาแนวร่วม หลังรับงบกว่า 5.7 พันล้านบาท


เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการเสวนา “พัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมมือร่วมใจ สู่ก้าวใหม่ที่ไกลกว่า” ซึ่งทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายสมชัยสวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ) ทอท.นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และนายเมธี ตันมานะตระกูล ที่ปรึกษากิตติศักดิ์สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินธุรกิจการบิน การขยายและพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต นอกจากนี้ยังนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภา จ.ภูเก็ต นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการ สายการบิน นักธุรกิจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วม

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมาท่าอากาศยานภูเก็ตมีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นอีกหนึ่งท่าอากาศยานที่มีจำนวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการมากรองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทาง ทอท.จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีโครงการพัฒนาในปีงบประมาณ 2552 – 2556 ใช้วงเงินงบประมาณ 5,791 ล้านบาท เพื่อสร้างและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีขีดความสามารถเพียงพอต่อการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกด้านได้อย่างปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว เพื่อเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค เช่น การก่อสร้างทางขับและลานจอดอากาศยาน การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคารจอดรถยนต์ ระบบสาธารณูปโภค ระบบถนนภายในท่าอากาศยาน เป็นต้น

“หลังก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานภูเก็ตให้รองรับปริมาณการจราจรทางอากาศยานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันรับได้ 6.5 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5 ล้านคน และในประเทศ 7.5 ล้านคน โดยจะสามารถรองรับไปได้จนถึงปี 2563 เพื่อเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค รวมทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงการคมนาคม ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางด้านการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว และที่สำคัญยังช่วยกระจายความเจริญสู่ชุมชน และก่อให้เกิดการจ้างงาน และการสร้างรายได้ต่อประชาชนที่อยู่โดยรอบท่าอากาศยานภูเก็ต และประเทศชาติโดยรวม” นายเสรีรัตน์กล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น