จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อบต.ศรีสุนทร จัด“วันนั้นที่บางมะรวน”


เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล จังหวัดภูเก็ต นายธำรง ตันติวิรัชกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร และนายแพทย์ประสิทธิ์ โกยศิริพงษ์ ประธานที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมแถลงข่าวงานสืบสานประเพณีลอยกระทง “วันนั้นที่บางมะรวน” โดยมีคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายธำรง กล่าวว่า การจัดงานลอยกระทง “วันนั้นที่บางมะรวน” จัดขึ้นในวันที่ 19 – 21 พฤศจิกายน 2553 ณ บริเวณขุมเหมืองบางมะรวน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทง และจุดประกายให้เกิดความต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นงานของชุมชน สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจของชุมชนให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความสามัคคี ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งแรกที่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการพัฒนาท้องถิ่น ให้ก้าวไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งส่งเสริมอาชีพให้แก่ชาวบ้านในชุมชนศรีสุนทรให้เกิดความมั่นคง และมีความคิดสร้างสรรค์ มีการจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สินค้าOTOP และกิจกรรมความบันเทิงย้อนยุค พร้อมมุ่งสู่การเป็นตลาดวัฒนธรรมที่มีมาตรฐานสากล เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

นายธำรง ยังกล่าวต่ออีกว่า รูปแบบของการจัดงานครั้งนี้ได้เน้นถึงวัฒนธรรมแบบย้อนยุค ในงานจะมีการประกวดหนูน้อยนพมาศ ประกวดนางนพมาศ มีการแสดงดนตรีเปิดหมวก การแสดงรำโบราณ หนังกลางแปลงมีเครื่องเล่นแบบในอดีต เช่น ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รำวงย้อนยุค ปาโป่งด้วยลูกดอก สาวน้อยตกน้ำ มีการโชว์ขบวนรถโบราณ สำหรับการจัดงานครั้งนี้ใช้งบประมาณ 8 แสนบาท และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวในงานประมาณวันละ 2 พันคน หากการจัดงานในครั้งนี้มีการตอบรับที่ดีและบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ก็จะทำการจัดงานเชิงวัฒนธรรมนี้ต่อไป ซึ่งจะจัดขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ของนักท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้งานสืบสานประเพณีลอยกระทง “วันนั้นที่บางมะรวน” จะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา 19.00 น. โดยนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีพร้อมทั้งนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต และนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมงาน



ภูเก็ตจับมือสสปน.พัฒนาตลาด MICE


เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจัดหวัดภูเก็ต นายจิรุตถ์ อิศรางกรู ณ อยุธยา ผู้อำนวนการฝ่ายบริหารรัฐกิจวิสาหกิจ และคณะ เข้าพบ นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือ แนวทางความร่วมมือในอนาคตเรื่องการสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองสำหรับการจัดประชุม สัมมนาและนิทรรศการระดับนานาชาติ (MICE) โดยมี นายธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตเข้าร่วม

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การที่มาพบผู้ว่าฯในครั้งนี้ เพื่อมาหารือแนวทางความร่วมมือในอนาคตว่าหน่วยงาน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุม และนิทรรศการ (องค์การมหาชน) มีภารกิจอะไรบ้าง และสานต่อจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนเก่าซึ่งได้มีการเซ็นต์ MOU ไว้แล้ว ส่วนนโยบายหลักของ สสปน. คือ พยายามที่จะกระจายรายได้ในส่วนของไมค์ เข้าสู่พื้นที่ในจังหวัดให้ได้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้หลักๆ ในการเซ็นต์ MOU ร่วมในโครงการไมค์ซิตี้ ได้เซ็นต์ไปแล้วสามจังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พัทยา และกรุงเทพฯ ซึ่งในแต่ละพื้นที่นั้นจะมีคณะกรรมการทำงานร่วมกับ สสปน.แล้ว เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชนในพื้นที่เกี่ยวข้องกับไมค์ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามภารกิจ ที่สำคัญในตอนนี้มีด้วยกันสองภารกิจ ภารกิจแรกคือเรื่องการอำนวยการนักท่องเที่ยวกลุ่มไมค์ในจังหวัด ส่วนภารกิจที่สองคือการพัฒนา เนื่องจากการดูแลเทคแคร์กลุ่มไมค์จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวกลุ่มไมค์ สามารถทำรายได้ ได้มากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปสามเท่า เพราะฉะนั้นทางจังหวัดต้องมีการดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มไมค์เป็นพิเศษ เพื่อปะชาสัมพันธ์ให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มไมค์เกิดความประทับใจ


ภูเก็ตเตรียมยกเครื่องแก้ปัญหารถป้ายดำ

ภูเก็ตเตรียมยกเครื่องแก้ปัญหารถป้ายดำ

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายกนก ศิริพานิชกร ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมจิตต์ เช้าฉ้อง ผอ.กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ ร่วมหารือร่วมกับ พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ที่ปรึกษาสหกรณ์รถบริการ ภูเก็ตคอลเซ็นเตอร์ จำกัด และนายเศรษฐศักดิ์ บัวซ้อน ประธานผู้ก่อตั้งสหกรณ์รถบริการ ภูเก็ต คอลเซ็นเตอร์ จำกัด เกี่ยวกับการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

สำหรับการหารือกันในครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนของรัฐบาลกลางและจังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับปัญหาการใช้บริการรถบริการสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ป้ายดำ รถตุ๊กตุ๊ก จักรยานยนต์รับจ้าง ในเรื่องของมาตรฐานการบริการ อัตราค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตเสียหาย แม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้พยายามในการแก้ปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร

นายเศรษฐศักดิ์ บัวซ้อน ประธานผู้ก่อตั้งสหกรณ์รถบริการ ภูเก็ต คอลเซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตประสบปัญหาที่จอดรถสาธารณะของประชาชนและนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะบริเวณชายหาดป่าตอง เนื่องจากมีการนำรถบริการให้เช่า และรถบริการที่ไม่ถูกกฎหมาย (แท็กซี่ป้ายดำ) ไปจับจองใช้พื้นที่บางส่วนสำหรับให้บริการ ขณะเดียวกันก็มีปัญหาเรื่องราคาค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรม ทำให้เสียภาพพจน์การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

“จากปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีการรวมตัวจัดตั้งเป็นชมรมแท็กซี่ป่าตองขึ้น เพื่อรวบรวมแท็กซี่ป้ายดำที่มีอยู่ประมาณ 500 คัน มาดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างป้ายเขียว ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จะมีการประสานไปยังโรงแรมต่างๆ ในหาดป่าตอง ให้รับรถป้ายเขียวไปประจำแต่ละโรงแรม เพื่อรับส่งผู้โดยสาร โดยไม่ต้องนำรถทั้งหมดมาจอดรอผู้โดยสารอยู่ที่หน้าโรงแรมหรือหน้าหาดเหมือนที่ผ่านมา แต่จะใช้ในลักษณะของคอลเซ็นเตอร์ เรียกรถมารับผู้โดยสารแทน ซึ่งจะหมดปัญหาการนำรถมาจอดรอที่บริเวณหน้าโรงแรมหรือหน้าชายหาด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการบริเวณหาดป่าตองเป็นพื้นที่นำร่อง ส่วนอัตราค่าโดยสารอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการรถรับจ้างกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ” นายเศรษฐศักดิ์ กล่าว

ขณะที่นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดมีนโยบายที่จะทำให้รถแท็กป้ายดำเข้าสู่ระบบทั้งหมด ทั้งการจัดทำเป็นมิเตอร์และการนำป้ายดำมาเป็นป้ายเขียว เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งการจัดระเบียบที่จอดรถชายหาดป่าตอง เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยว เพราะปัจจุบันที่จอดรถสาธารณะบริเวณชายหาดป่าตองถูกผู้ประกอบการรถเช่า รถตุ๊กตุ๊ก แท็กซี่ป้ายดำ นำรถไปจอดเต็มเกือบทั้งหมด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเร็วๆ นี้


ททท.ติวเข้มการตลาดสมัยใหม่



เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องพระพิทักษ์แกรนด์บอลรูม โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวันชัย เรืองอุดม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา โครงการส่งเสริมความรู้การตลาดท่องเที่ยวสมัยใหม่สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว หัวข้อ “การตลาดสมัยใหม่ : กลไกสู่ความสำเร็จของธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว ตัวแทนสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจสปา ธุรกิจขนส่ง ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก แหล่งท่องเที่ยว สถานนันทนาการและมัคคุเทศก์ เข้าร่วมประมาณ 120 คน

นางปานจิตร สันทัดกลการ ผู้อำนวยการกองเผยแพร่ความรู้ด้านการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บนโลกธุรกิจและการแข่งขันทางการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อมีเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น ส่งผลให้การทำตลาดต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เนื่องจากการทำตลาดในปัจจุบันได้กลายเป็นตลาดของผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจไม่เพียงแข่งขันกันเฉพาะคุณภาพของสินค้าหรือบริการเท่านั้น หากยังต้องแข่งขันกันที่คุณค่าของสินค้าหรือบริการที่เหนือความคาดหมายอีกด้วย เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง โดยผู้ประกอบการธุรกิจต้องพิจารณาถึงการผลิตสินค้าให้ตรงตามคุณค่าของผู้บริโภค

ขณะเดียวกันธุรกิจท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมบริการที่ขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ซื้อ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันดังกล่าว และจากสถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง เพื่อช่วงชิงนักท่องเที่ยวในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศ ประกอบกับผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ทำให้ทุกประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวล้วนใช้การท่องเที่ยวมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องวางแนวทางการตลาดให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงจึงสามารถที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้

ททท.ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ เล็งเห็นว่าแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ จะเป็นกลไกสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ จึงได้จัดโครงการส่งเสริมความรู้การตลาดท่องเที่ยวสมัยใหม่สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในหัวข้อ “การตลาดสมัยใหม่: กลไกสู่ความสำเร็จของธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้มีความรู้และความเข้าใจแนวคิดการตลาดสมัยใหม่ เพิ่มพูนทักษะและวิสัยทัศน์ในการบริหารงานการตลาดการท่องเที่ยวให้ประสบความสำเร็จ นางปานจิตรกล่าว

สำหรับโครงการสัมมนาดังกล่าวมีการดำเนินการ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดที่กรุงเทพมหานคร ครั้งถัดมาที่ จ.เชียงใหม่ และครั้งสุดท้ายที่ จ.ภูเก็ต โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านการตลาดสมัยใหม่มาให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ พลังสร้างสรรค์กับสงครามการตลาด, กลเม็ดมัดใจลูกค้า, สื่อสารอย่างไรให้โดนใจผู้บริโภคและกลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้ติดตลาด


ติวเข้มผู้ประกอบการแท็กซี่ ตามโครงการแท็กซี่สีขาว


เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องประชุมโรงเรียนวิชิตสงคราม ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต เป็นประธานการเปิดอบรมโครงการแท็กซี่สีขาว ให้แก่กลุ่มผู้ให้บริการรถแท็กซี่รับจ้างคิวห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ภูเก็ต โดยมีนายวิโรจน์สุวรรณวงศ์ ป้องกันจังหวัด นายอนุชา เอกวานิช ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต และผู้ขับรถแท็กซี่เข้าร่วมจำนวนประมาณ 100 คน

นายอนุชา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดหมู่บ้าน เพื่อให้การดำเนินงานของหมู่บ้านภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันและปฏิบัติการมหาดไทย CLEAN&SEAL ทำความดีเพื่อแผ่นดินกวาดล้างให้สิ้นยาเสพติด สามารถดำรงความเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางปฏิบัติ คือ 1.ด้านโครงสร้างจะมีคณะทำงานด้านการปกครองและการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานคณะทำงาน 2.ด้านอำนวยการ มีการจัดทำประชาคมหมู่บ้าน ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 3.ด้านการป้องกัน-ปราบปราม รณรงค์เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด มีการเฝ้าระวังปัญหาของยาเสพติดอย่างสม่ำเสมอ ติดตามข่าวสารและพฤติกรรมของบุคคล-แจ้งเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีการจัดกำลังออกตรวจตราพร้อมตั้งด่านตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในชุมชน

ขณะที่นายศุภชัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี ในการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเพสติด ซึ่งปกติเชื่อว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังอยากฝากเรื่องการโก่งราคาแท็กซี่ การเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นก็จะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของแท็กซี่ได้ รวมทั้งอาจจะส่งผลให้ผู้ประกอบการห้างฯ ยกเลิกการจ้างและเปิดให้บริษัทใหม่เข้ามาประมูล ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนและอาจจะส่งผลให้มีการปิดถนน สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น หากเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแล้วว่าหากใครปิดถนน ไม่เคารพสิทธิของคนอื่น จะทำการจับกุมดำเนินคดีทันที เชื่อว่าหากเราทุกคนไม่ทำตัวให้มีปัญหา และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด รวมทั้งช่วยแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนได้

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

39 ปี “พี่น้องรามฯ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม”

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุพาทน์ สุชาตานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานชมรมรามคำแหงภูเก็ต พร้อมด้วยนาย ไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานจัดงาน 39 ปี “พี่น้องรามฯ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” นายพิชัย ศรีจำนอง อัยการจังหวัดภูเก็ต นายวิโรจน์ สุวรรณวงค์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต นายชัยยศ ปัญญาไวย ประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต และ นายสรายุทธ มัลลัม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวงาน 39 ปีพี่น้องรามฯช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ในการจัดงาน 39 ปีพี่น้องรามฯช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งทางชมรมรามคำแหงภูเก็ต โดยนาย สุพาทน์ สุชาตานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานชมรมรามคำแหงภูเก็ต พร้อมกับศิษย์เก่าและปัจจุบัน ร่วมจัดงานในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2553 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการก่อตั้งและเผยแพร่พัฒนาการความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยรามคำแหง อีกทั้งเป็นการพบปะของพี่น้องชาวรามคำแหงที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบัน รวมถึงยังทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่จังหวัดภูเก็ต

อย่างไรก็ตามการจัดงานในครั้งนี้ จะนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องฟอกไตให้กับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สำหรับกิจกรรมภายในงานจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน นี้ มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บุคลากรผู้ล่วงลับ ที่วัดวิชิตสังฆาราม(วัดควน) อ.เมืองภูเก็ต ขณะที่ในช่วงค่ำ จะมีงานภาคบันเทิง ทั้งนี้ยังมีการประมูลของที่ระลึกของบุคคลสำคัญ อาทิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต และ ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ณ อุทยานไทนาน ภูเก็ต


“ภูเก็ต ฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส 2010” สนามสุดท้าย

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 53 ที่บริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด สาขาถนนพังงา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนายชัยพฤกษ์ พันธ์พฤกษ์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางอรนุช พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และนายอโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังปรีด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกันแถลงการณ์เกี่ยวกับการแข่งขัน “ภูเก็ต ฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส 2010” สนามที่ 5 ที่สนามเฉพาะกิจสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 27 – 28 พฤศจิกายนนี้

นางอรนุช กล่าวว่า การจัดกิจกรรม ภูเก็ต ฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส นับเป็นโอกาสดีที่ฮอนด้าจะได้พิสูจน์ถึงเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและสมรรถนะของรถยนต์ พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ขณะเดียวกันก็เป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงฮอนด้ากับลูกค้าที่ชื่นชมกีฬามอเตอร์สปอร์ตอีกด้วย

“การแข่งขัน ฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส 2010 จัดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันมา นับเป็นกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่มีความสนุกสนานและตื่นเต้นที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย และได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักแข่งและแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ต ไฮไลต์ในซีวิค วันเมคเรซ คือ การปรับเปลี่ยนเครื่องของฮอนด้า ซีวิค 1.8 ลิตร เป็น 2.0 ลิตร 225 แรงม้า นับเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยใช้ในการแข่งขันวันเมคเรซในประเทศไทย และความยาวของแต่ละสนามที่ใช้ทำการแข่งขันจะมีความยาวไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจผู้นิยมกีฬาแข่งรถทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยได้จัดการแข่งขันไปแล้วที่สนามแข่งในจังหวัดเพชรบุรี พัทยา เชียงใหม่ และปิดฤดูการแข่งขันที่จังหวัดภูเก็ต”

นางอรนุช กล่าวด้วยว่า การแข่งขัน ซีวิค วันเมคเรซ จะมีนักแข่งกึ่งอาชีพและอาชีพร่วมแข่งขันจำนวนกว่า 17 คน (คลาส-เอ บี และซี) ด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตของรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค และการปรับแต่งเพื่อใช้ในการแข่งขันวันเมคเรซ ซึ่งเริ่มแข่งขันเมื่อสองปีที่ผ่านมา นับเป็นรถแข่งที่ได้รับความนิยมจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยด้วยคุณสมบัติด้านความปราดเปรียว การบังคับควบคุมและสมรรถนะ การเพิ่มแรงม้าให้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมี การแข่งขันแจ๊ซ วันเมคเรซ ซึ่งปีนี้มีนักแข่งสมัครเล่น 20 คน (คลาส ซี) โดยจะลงสนามแข่งขันด้วยรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ 120 แรงม้า และหารแข่งขันฮอนด้า โปรคัพ ซึ่งมีนักขับมืออาชีพและกึ่งมืออาชีพมากกว่า 30 คน รวมทั้งนักแข่งมือสมัครเล่นอีกกว่า 30 คน เข้าร่วมแข่งขัน สำหรับผู้ชนะการแข่งขันประจำปีทั้ง 3 รายการ จะได้รับถ้วยประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

อย่างไรก็ตามผู้ร่วมชมการแข่งขัน ยังจะได้พบกับกิจกรรมที่จัดขึ้นที่บริเวณรอบนอกของสนามแข่งขันภายใต้บรรยากาศฮอนด้า ฟัน ปาร์ค ประกอบด้วย สวนน้ำฮอนด้า ฮอนด้าโกคาร์ท กิจกรรมคุณหนู พร้อมร่วมตัดสิน Cover Dance Contest และ Photo Contest การแข่งขันรถบังคับวิทยุ การแสดง แมด ฮอพ โชว์ ซึ่งเป็นกีฬาที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น รวมถึงมินิคอนเสิร์ตไอซ์ ศรัณยู และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ผู้ชมที่ประสงค์จะสัมผัสประสบการณ์ของการแข่งขันทั้งในและนอกสนามแข่ง สามารถเข้าร่วมกิจกรรมฮอนด้า พิททัวร์ เพื่อชมการทำงานของทีมแข่งและพบปะนักแข่งในบริเวณพิท ฮอนด้า ฮอทแล็ป ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มีประสบการณ์แข่งขันในสนามแข่งขัน โดยร่วมนั่งในรถแข่งกับผู้ขับที่เป็นนักแข่งขันระดับมืออาชีพ และยังจะได้พบกับโชว์ขับรถผาดโผน (Honda J-Turn Show) และโชว์สมรรถนะของรถยนต์ฮอนด้าด้วย

ขณะที่นายอโณทัย กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการแข่งขันรายการดังกล่าวนั้น ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2553 ก็จะจัดการสัมมนา เรื่องความปลอดภัยในสนามแข่งและท้องถนน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงตระหนักถึงอันตรายและ หลีกเลี่ยงการแข่งขันบนท้องถนนสาธารณะ ที่ไม่มีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัยเบื้องต้น เทคโนโลยีความปลอดภัยในรถปัจจุบันมีส่วนช่วยผู้ขับอย่างไรบ้าง รวมทั้งการแข่งขันรถและความปลอดภัยของการแข่งขัน (นักแข่ง รถแข่ง สนามแข่ง และผู้ชม) ที่บริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด สาขา ถ.พังงา (ในเมือง) ผู้ที่สนใจสามารถขอรับและส่งใบสมัครได้ที่ บริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 076-371-800


นปส.ภูเก็ตสนธิกำลังรวบผู้ค้ายาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด


 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 53 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และชุดจับกุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทัพเรือภาค 3 เจ้าหน้าที่ปปส.ภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นางสายชล หรือ โม นิซัน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/5 ม.1 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จว.ปราจีนบุรี และนายชวลิต หรือ น้อง เชิดชูภัทร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ซอยริมคลองกรวย แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วยยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะเม็ดกลมแบน สีส้ม ด้านหนึ่งมีอักษร WY จำนวน 11,437 เม็ด โดยจับกุมตัวได้ภายในโรงแรม 999 ถ.กระ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ด้วยทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายว่า นายอำพล ราชนิยม อายุ 47 ปี นักโทษชายในเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ที่ถูกจับกุมอยู่ได้โทรศัพท์มือถือ เสนอขายยาบ้าในราคามัดละ 2,000 เม็ด เป็นเงิน 280,000 บาท และยาไอซ์ จำนวน 200 กรัมในราคา 560,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้สายสั่งซื้อยาบ้าในจำนวน 5 มัด หรือ 10,000 บาทและยาไอซ์ จำนวน 200 กรัม โดยมีการนัดหมายให้มาส่งยาที่จังหวัดภูเก็ต แต่มีเหตุขัดข้อง จึงได้เลือนการส่งมอบยาในครั้งนั้น จนกระทั่งวันที่ 8 พฤศจิกายน 53 นายอำพล ได้โทรศัพท์มาแจ้งกับสายว่า ได้ให้นางโม อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างท้วม ผิวดำแดง ผมยาว ได้นำยาบ้าจำนวน 5 มัด หรือ 10,000 เม็ดมาส่งให้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สายจึงได้ติดต่อกับนางโม โดยได้มีการนัดจะส่งยากันที่ต.โคกกลอย อ.ตะกุ่วทุ่ง จ.ภูเก็ตในวันที่ 8 พฤศจิกายน 53 ก่อนเที่ยง โดยให้สายเตรียมเงินไว้ด้วยเป็น 1,500,000 บาท และมารอรับของที่บ้านโคกกลอย แต่เมื่อสายเดินทางไปถึงและพบกับนางโม ก็ได้รับแจ้งว่า ของนั้นได้ให้นายเอ๊ะ มารอส่งมอบที่อ.เมือง จ.ภูเก็ต แล้ว

จากนั้นสายและนางโม ก็ได้เดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ต โดยในระหว่างเดินทางก็ได้โทรศัพท์ ติดต่อกับนายเอ๊ะ จนกระทั่งทราบว่า นายเอ๊ะได้มาเปิดห้องพักอยู่ที่ห้องหมายเลข 09 โรงแรม 999 เลขที่ 54/2 ถ.กระ ต.ตลาดใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามมาถึงที่ห้องดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม และเข้าทำการตรวจค้นภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบยาบ้าจำนวน 11,437 เม็ด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวทั้ง 2 มาทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผล โดยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ได้ถูกว่าจ้างให้มาส่งของให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยไม่ทราบว่าผู้รับเป็นใคร แต่จะมีการติดต่อกันในทางโทรศัพท์เพื่อให้ผู้รับของมารับ แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้นำตัวทั้ง 2 พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ทูตอังกฤษหารือประสานช่วยเหลือนักท่องเที่ยว


เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายแดเนียล พรูซ อัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย พร้อมคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และประสานงานกันในการดูแลนักท่องเที่ยว ตลอดจนให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

นายแดเนียล พรูซ อัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวตนได้เดินทางมาเที่ยวภูเก็ตประมาณ 3 ครั้ง รู้สึกชื่นชอบภูเก็ตเป็นอย่างมาก การเข้าพบผู้ว่าฯ ในครั้งนี้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเพื่อประสานความร่วมมือช่วยเหลือกันและกัน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยปีละจำนวนมากกว่า 800,000 คน และที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยในลักษณะ Long stay จำนวนมากกว่า 50,000 คน และส่วนใหญ่จะมาอาศัยอยู่ในภูเก็ต ทั้งนี้ต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความปลอดภัยในช่วงที่เดินทางมาพักผ่อนหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามมีความห่วงใยในเรื่องของปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละกว่า 5 ล้านคน และสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่งก็ได้วางนโยบายและให้ความสำคัญในการดูแลนักท่องเที่ยวให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางจังหวัดยังได้มีการประชุมร่วมกับกงสุลต่างๆ ที่มาประจำอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีมากถึง 21 ประเทศเป็นประจำทุกๆ 3 เดือน นับเป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลปัญหาต่างๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขร่วมกันอีกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตามต่อข้อห่วงใยเรื่องปัญหาจราจรนั้น นายตรี กล่าวว่า ได้มีการวางแผนในเรื่องของการจัดสถานที่จอดรถให้บริการนักท่องเที่ยวในลักษณะ Call Center และภายในสิ้นปีนี้ก็น่าจะมีความชัดเจนในเรื่องรถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งเป็นบริการสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และน่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับภูเก็ต เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันปัญหาการจราจรก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ ที่จะต้องแก้ปัญหาในภาพรวม



วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

“แอร์เอเชีย” เปิดเส้นทางบิน ภูเก็ต – บาหลี


เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ที่โรงแรมเมอเวนพิค ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวภูเก็ต-บาหลี ของสายการบินแอร์เอเชีย ร่วมกับนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยมีนางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต นายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และผู้อำนวยการสถานีวิทยุการบินภูเก็ต ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วม


นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า วันนี้ภูเก็ตเป็นฐานการบินที่เราภาคภูมิใจ เพราะสามารถเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอย่างดี แอร์เอเชียจึงขยายเส้นทางบินใหม่ต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกและดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย และใช้จ่ายในภูเก็ต

“เส้นทางบินใหม่ ภูเก็ต-บาหลี เป็นเส้นทางที่ท้าทายความเชื่อและน่าสนใจอย่างมาก และเราเป็นสายการบินแรกที่เปิดเส้นทางบินนี้ หลายคนมองว่าสองเมืองมีเอกลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันในฐานะที่เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่รักบรรยากาศทะเล แต่เมื่อให้ชัดเจนแล้วจุดที่เหมือนกันมากที่สุดของภูเก็ตและบาหลี กลับเป็นเรื่องของการเป็นศูนย์กลางการบินที่มีเส้นทางบินและปลายทางที่หลากหลายเชื่อมต่ออยู่ โดยปี 2552-2553 มีนักท่องเที่ยวเดินทางสู่บาหลีเฉลี่ยมากกว่า 2.2 ล้านคนต่อปี การเปิดเส้นทางบินครั้งนี้จึงเป็นการเชื่อมฐานการบินกับฐานการบิน ซึ่งจะทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างแน่นอน”

นายทัศพล กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายของเส้นทางบินนี้จะเป็นกลุ่มของนักท่องเที่ยวที่ใช้เวลาพักผ่อนนานๆ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ที่หลากหลายยิ่งขึ้นได้ ที่สำคัญคุ้มค่าราคาประหยัดแบบฉบับแอร์เอเชีย นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวชั้นดีจากประเทศแถบออสเตรเลียให้มากขึ้นด้วย เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากออสเตรเลียผ่านบาหลีมายังภูเก็ตได้สะดวกจากเส้นทางบินใหม่ของเรา

ทั้งนี้จะเริ่มทำการบินสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ และหากได้รับการสนับสนุนตอบรับที่ดีก็มีแผนในการเพิ่มเที่ยวบินต่อไปในอนาคต ในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้จัดแคมเปญโปรโมชั่นด้วยราคาเริ่มต้นต่อเที่ยวเพียง 1,490 บาท สำรองที่นั่ง ตั้งแต่ 8-14 พฤศจิกายน 2553 เพื่อเดินทาง 17 ธันวาคม 2553-10 พฤศจิกายน 2554 ทั้งนี้เป็นการให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัสใหม่ป้ายแดงทุกเที่ยวบิน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ http://www.airasia.com/


แก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร

แก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรอย่างมีส่วนร่วม โดยอาศัยทรัพยากรและศักยภาพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนาย ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) นายแพทย์ วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรต่างๆ โรงพยาบาล เป็นต้น

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ได้มีการนำเสนอผลการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติ เรื่อง การพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรอย่างมีส่วนร่วมโดยอาศัยทรัพยากรและศักยภาพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โยใช้กลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษา คือ ตัวแทนคณะกรรมการและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจรในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 16 คน สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และตัวแทนสมาชิกครอบครัวจากชุมชนจุดเสี่ยง จำนวน 100 คน สุ่มตัวอย่างจากจุดเสี่ยง โดยใช้เครื่องมือทั้งแบบบันทึก แบบรายงาน แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างเดือนกันยายน 2552- กรกฎาคม 2553วิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา

ทั้งนี้ได้ข้อสรุปจากการศึกษาดังกล่าวว่า การพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร โดยการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร เริ่มจากการสร้างภาคีเครือข่าย โดยใช้ Dead case conference มาเป็นจุดเริ่มสร้างความมีส่วนร่วม การวางเป้าหมาย การใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ หลักวิชาการ ทรัพยากรและศักยภาพในพื้นที่ เป็นปัจจัยนำไปสู่การแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจรได้ตรงจุด และได้ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า จากข้อมูลที่มีการนำเสนอพบว่าปัญหาใหญ่ของการเกิดอุบัติจราจรนั้นส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะเมาแล้วขับ การใช้ความเร็ว ปัญหาด้านวิศวกรรมจราจร และการบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นการแก้ปัญหาที่สำคัญ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนนควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย และมีการแก้ไขทางด้านวิศวกรรมจราจร เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะจากการริเริ่มโครงการรณรงค์ให้มีการสวมหมวกนิรภัย 100% นำร่องในเขตเทศบาลนครภูเก็ตทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย พบว่าจำนวนของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะขยายให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นไป ควบคู่ไปกับการรณรงค์เมาไม่ขับ ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดผลอย่างจริงจัง


เปิดกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.ภูเก็ต ครั้งที่ 3


เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ที่สนามสุรกุล อ.เมือง ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 3 ซึ่งแข่งขันในระหว่างวันที่ 7 – 19 พฤศจิกายน 2553 การแข่งขันในครั้งนี้ มีองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมจำนวน 9 อปท. โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน นำโดยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาอบจ.ภูเก็ต ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน นักศึกษาและนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม

ทั้งนี้นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 3 ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้จัดให้มีการแข่งขันจำนวน 9 ชนิดกีฬา 2 กิจกรรม คือ ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล เซปัคตะกร้อ เปตอง เทเบิลเทนนิส กรีฑา กีฬาพื้นบ้านและกอล์ฟ กิจกรรมการประกวดกองเชียร์และขบวนพาเหรด โดยใช้สนามสุระกุล สนามชัย อาคารยิมเนเซียน ศูนย์กีฬาสะพานหิน และอาคารอติเศรษฐ์โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว เป็นสนามแข่งขัน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการและพนักงานจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต โดยใช้การกีฬาเป็นสื่อ สนับสนุนให้ผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการและพนักงานจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางด้านร่างกายและสติปัญญาต่อไป

ด้านนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต เกิดจากความรู้รักสามัคคีและการร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย ที่ได้เห็นถึงความสำคัญจนทำให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง จึงขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตทุกแห่ง คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่และนักกีฬาทุกคน

ขอให้การแข่งขันกีฬาเป็นเครื่องมือในการทดสอบและประลองความสามารถด้านการกีฬาเท่านั้น อย่าได้มุ่งหวังเพื่อชัยชนะอย่างเดียว จนเป็นสาเหตุของความแตกแยก ขอให้ทุกคนพึงปฏิบัติตามกฎ ระเบียบและกติกาการแข่งขัน เพื่อร่วมกันพัฒนาการกีฬาสืบไป

สำหรับการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ ได้มีการเดินขบวนพาเหรดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตที่เข้าร่วมอย่างสวยงาม ทำให้เห็นถึงความพร้อมเพรียงและความสามัคคีในองค์กรเป็นอย่างดี


ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

 
นางสาวเพ็ญพักตร์ อู่แก้ว รองผู้จัดการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 100,000 บาท และสิ่งของจากที่ได้จากการร่วมใจของผู้บริหาร และพนักงานภูเก็ตแฟนตาซีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ ผ่านทางจังหวัดภูเก็ต โดยนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับมอบ ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา