จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

หลายหน่วยงานจัดกิจกรรมวันเด็กประจำปี 2554


เมื่อวันที่ 8 มกราคม 54 หลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันจัดงานกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 ซึ่งในปีนี้ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไดให้คำขวัญวันเด็กประจำปี 2554 ไว้ว่า "รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ" ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของตนเอง ส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้ของเด็ก ให้เด็กได้แสดงออกถึงความสามารถในกิจกรรมต่าง ๆ และเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้เห็นความสำคัญของเด็กซึ่งเด็กอนาคตของชาติต่อไป

โดยที่บริเวณลานด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2554 ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) จัดขึ้น โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต สมาชิกสภาอบจ.ภูเก็ต ตลอดจนเด็ก ๆ และผู้ปกครองเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมการแสดงบนเวที การมอบเกียรติบัตรให้กับนักเรียน ตลอดจนเกมส์การละเล่นและแจกของรางวัลต่างๆ มากมาย จากหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัด อบจ.ภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ

ขณะที่นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตก็ได้เปิดห้องทำงานให้ตัวแทนเด็กและยุวทูตวัฒนธรรมเข้าเยี่ยมชม พร้อมกันนี้ยังได้ให้โอวาท โดยขอให้เด็กทุกคนทำตัวเป็นเด็กดีของสังคมตลอดไปจังหวัดภูเก็ต ร่วม องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต

นอกจากนี้หลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตก็ได้มีการจัดงานวันเด็ก เช่น บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งจัดโดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้เปิดให้เยาวชนเข้าชมนิทรรศการ และเยี่ยมชมเรือหลวงบางปะกง ชมเฮลิคอปเตอร์ จากหมวดบินเฉพาะกิจ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 นอกจากนี้ยังมีการแสดงเครื่องบินเล็ก การสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล การโชว์อาวุธยุทธโทปกรณ์



ส่วนที่บริเวณสำนักงานเทศบาลตำบลรัษษฎา และเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่เข้าร่วมงานเข้าเยี่ยมชมและนั่งเก้าอี้นายกฯ พร้อมทั้งการแสดงของนักเรียนในสังกัด และของรางวัลแจกให้กับเด็กๆ เป็นจำนวนมาก

เด็ก 3 จังหวัดชายแดนใต้เที่ยววันเด็กที่ภูเก็ต


เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2553 งานประสานงานสำนักงานภาคใต้ กองตลาดภาคใต้ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ ททท.สำนักงานนราธิวาส นำเด็กด้อยโอกาสจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส) จำนวน 60 คน พร้อมครูผู้แลเดินทางท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอันดามัน ภายใต้โครงการเปิดโลกกว้างสร้างสามัคคีในพื้นที่ภาคใต้ดูแลใส่ใจเยาวชนภาคใต้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 เส้นทาง นราธิวาส-ปัตตานี -หาดใหญ่/ภูเก็ต โดยมีนายปรเมศวร์ อมาตกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. เจ้าหน้าที่จาก ททท. และคณะครูผู้ดูแลร่วมด้วย โดยเดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ต วันที่ 7 มกราคม 54 ก็ได้เดินทางเข้าชมมหัจรรย์กมลา ที่ภูเก็ตแฟนตาซี โดยการเข้าชมการแสดงในครั้งนี้ ได้สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับน้องที่เดินทางมาในครั้งนี้

นอกจากนี้ในวันที่ 8 มกราคม 54 ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ ทางคณะก็ได้เดินทางไปเยื่ยมชมเรือรบหลวงบางปะกง ที่ท่าเทียบเรือน้ำลึก สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำจังหวัดภูเก็ต สวนน้ำ Splash Jungle หาดไม้ขาว และชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่แหลมพรหมเทพด้วย ซึ่งในแต่ละสถานที่ล้วนสร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานให้กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก

นายปรเมศวร์ อมาตกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท. กล่าวถึงโครงการเปิดโลกกว้างสร้างสามัคคีในพื้นที่ภาคใต้ดูแลใส่ใจเยาวชนภาคใต้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 เส้นทาง นราธิวาส-ปัตตานี -หาดใหญ่/ภูเก็ต ว่า เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนด้อยโอกาส ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการเรียนรู้การเดินทางท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เยาวชนนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางทัศนศึกษาและเข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวมาปรับเสริมใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เยาวชนได้แลกเปลี่ยนทัศนคติและทำกิจกรรมทางการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างกลุ่มจังหวัดและภูมิภาคเดียวกัน ทำให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ รวมทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในการรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ให้กับองค์กร

ทุนสิงคโปร์เตรียมลงทุนแปรรูป ปลาทูน่า


เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2554 ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภกร บุญคำเอียด ผู้ประสานงานบริษัท ซีสไพ ภูเก็ต พร้อมคณะ ได้นำนักธุรกิจจากประเทศไตหวัน ซึ่งได้ไปลงทุนในประเทศสิงคโปร์ เข้าพบกับนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการลงทุนธุรกิจแปรรูปปลาทูน่า ในจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้นายศุภกร บุญคำเอียดได้กล่าวว่า ทาง บริษัท ซีสไพ ภูเก็ต มีบริษัทใหญ่จริงๆ อยู่ที่สิงคโปร์ มีโรงงานอยู่หลายแห่งทั้งที่ประเทศจีน แล้วก็อินโดนีเซีย หลังจากที่ธุรกิจปลาทูน่าเริ่มเบี่ยงเบนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติหรือไม่นั้นตนไม่แน่ใจ ปลาทูน่าก็เลยเริ่มหลั่งไหลมา จ.ภูเก็ต แถบทะเลอันดามัน เรือหรือธุรกิจปลาทูน่า เกือบจะทั้งระบบก็หลั่งไหลมาสู่ภูเก็ต จึงได้มาคุยกับท่านผู้ว่าฯ ว่าแนวทางของรัฐบาลเองนั้น ว่ามีนโยบายหรือว่ามีส่วนที่จะสนับสนุนเรื่องของธุรกิจปลาทูน่าตัวนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งทาง บริษัท ซีสไพ ภูเก็ต นั้นมีความสนใจ แล้วก็จะย้ายฐานทั้งหมดที่เขามีอยู่ทั้งที่อินโดนีเซีย และที่จีน จะมาทำธุรกิจให้ครบวงจรที่ภูเก็ต นั่นคือสิ่งที่เรามาพบผู้ว่าฯ เพื่อที่จะขอรับการสนับสนุนตรงนี้

“การทำธุรกิจปลาทูน่าแบบครบวงจรนั้น คือตอนนี้เรามีเรื่องของเรือจับปลา จำนวน 200 กว่าลำอยู่ที่ภูเก็ต และอยู่ที่อินโดนีเซียอีกประมาณ 300 ลำ พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ตถ้ารัฐบาลให้การสนับสนุน เราต้องการที่จะทำกระบวนการแปรรูปปลาทูน่า ปลาทูน่าที่เราจับได้มา ถ้าเราไม่ทำการแปรรูปมูลค่าก็จะลดน้อยลง แต่ถ้าเราแปรรูปแล้วมูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า แล้วก็ส่งออก ตลาดในประเทศของเราตอนนี้ยังไม่เปิดตลาดในประเทศ ตลาดเราส่วนใหญ่อยู่ที่อเมริกากับที่ญี่ปุ่นเป็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราอยากจะให้รัฐบาลช่วยเหลือคือเรื่องของทาด้านสถานที่ รูปแบบของห้องเย็นต่างๆ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจทูน่า ถ้าจับมาแล้วไม่มีที่เก็บ เป็นปัญหาใหญ่ ปลาพวกนี้จะต้องรักษาความสดให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุดก่อนที่จะส่งออก แล้วก็เรื่องเอกสารต่างๆ จะมีปัญหาสำคัญเพราะการส่งออกจะต้องใช้เอกสารตามที่ธุรกิจการค้าโลกเขากำหนด เป็นเรื่องที่เราต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะเราไม่สามารถออกเอกสารเหล่านี้ได้ จริงๆ เรามาทำธุรกิจบ้างแล้วแต่ยังไม่เต็มรูปแบบ ตอนนี้มีเรื่องของการจับปลาแล้วก็ส่งขายปลาเป็นตัวเสียส่วนใหญ่ ส่งไปญี่ปุ่น กับอเมริกา ซึ่งที่ส่งไปอเมริกา ส่วนใหญ่จะมีแปรรูปแล้วบ้าง โดยจ้างโรงงานแปรรูป ไม่ค่อยดี เราจึงต้องการที่จะมีธุรกิจแปรรูปตรงนี้เพื่อที่จะสามารถควบคุมทุกอย่างได้ โดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพ ตอนนี้เราเข้ามาศึกษา เตรียมการอยู่ สิ้นเดือนมีนาคมนี้คงมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่เราเข้ามาศึกษา เข้ามาดูรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ ในเรื่องงบประมาณไม่ได้ตั้ง เนื่องจากมีความพร้อมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณ เพียงแต่ว่าถ้ารับการสนับสนุนที่ดีหรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางรัฐดำเนินการ ทั้งเรื่องขั้นตอนการดำเนินการ เรื่องสถานที่ ผมเชื่อว่าภูเก็ตจะบูม มากกว่านี้ในเรื่องธุรกิจ” นายศุภกร

อบจ.ภูเก็ตประชุมแผนการดำเนินงานประจำปี 2554


เมื่อวันที่ 7 มกราคม 54 ที่ห้องประชุมสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการประชุมแผนการดำเนินงานประจำปี 2554 โดยมี คณะบริหาร หัวหน้าส่วนราชการ อบจ.ภูเก็ต และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้มีแผนงานยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาจังหวัด 8 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านสาธารณสุข เช่น แนวทางพัฒนาโรงพยาบาลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และสถานบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพมาตรฐาน แนวทางส่งเสริมสนับสนุน การสร้างและดูแลสุขภาพอนามัย ตลอดจนช่วยเหลือผู้ป่วยในชุมชน โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 97,652900 บาท

ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เช่นแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุน เอกลักษณ์การท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อมวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีของท้องถิ่น ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพด้านบริการ บุคลากร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 69,656,900 บาท

ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการศึกษา เช่น แนวทางส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา แนวทางส่งเสริมและสนับสนุน พัฒนา ศักยภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษา โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 195,374,821 บาท

ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านคุณภาพชีวิต เช่นแนวทางส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส แนวทางส่งเสริมการพัฒนาและอนุรักษ์จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดภูเก็ต โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 56,934,700 บาท

ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น แนวทางส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค ให้สอดคล้องกับความจำเป็นและความต้องการของประชาชน แนวทางส่งเสริมการพัฒนา และดูแลรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อให้มีน้ำสะอาดเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 32,505.450 บาท

ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น แนวทางส่งเสริมสนับสนุนระบบการกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร แนวทางส่งเสริมสนับสนุนการสร้างสวนสาธารณะ สวนสุขภาพ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 28,340,000 บาท

ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น แนวทางส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรักษาความปลอดภัยและแก้ไขปัญหาจราจร แนวทางส่งเสริมสนับสนุนให้มีระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตภายในจังหวัด โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 29,545,620 บาทโดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 38,001,100 บาท

และยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการบริหาร การเมือง การปกครอง เช่น แนวทางส่งเสริมความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น แนวทางพัฒนาประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาและการบริการประชาชน รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งหมดจำนวน 548,011,491 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตในทุก ๆ ด้านให้ครอบคลุมตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดและรัฐบาลต่อไป

เปิดห้องสมุดทันสมัยเพื่อคนพันธ์ใหม่


เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554 ที่ โรงเรียนบ้านทุ่งคา บุณยขจรประชาอาสา นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานโครงการห้องสมุดทันสมัยเพื่อคนพันธ์ใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายอนันต์ สกุลธนา ผู้จัดการศูนย์บริหารวิทยุภาคใต้ตอนบน บริษัท อสมทจำกัด (มหาชน) นายสุรทิน เลี่ยนอุคดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎาและหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ทั้งนี้นายอนันต์ กล่าวว่า ด้วยโรงเรียนบ้านทุ่งคา บุณยขจรประชาอาสา เป็นสถานศึกษาที่รับผิดชอบจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียนประมาณ 600 คน คณะครูอาจารย์ บุคลากรจำนวน 30 คน นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ครอบครัวแตกแยก และขาดที่พึ่งพิง ทางโรงเรียนจึงจัดให้มีการเรียนการสอนในห้องเรียน และนอกห้องเรียน เปิดสอนชุมนุมที่นักเรียนต้องการ หาสรรพวิทยาการให้นักเรียนค้นคว้า ประกอบกับทางโรงเรียนต้องการสร้างห้องสมุดให้มีสภาพเอื้อต่อการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น

ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนขาดหนังสือที่มีคุณภาพ คอมพิวเตอร์ สื่อการเรียนการสอน รวมถึงทุนทรัพย์และงบประมาณใช้ในการเรียนการสอน ไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็กนักเรียนที่เพิ่มขึ้นทุกปี จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อสร้างห้องสมุดที่มีคุณภาพรับนโยบาย 3 ดี และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้นนอกจากนี้เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามาให้บริการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การก่อสร้างห้องสมุดในครั้งนี้เป็นห้องสมุดที่พร้อมใช้งานได้ทันที จากการดำเนินงานในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นแนวทางในการปฏิบัติ พัฒนาห้องสมุดแห่งอื่น ๆ ต่อไป ตามเป้าหมายของโครงการห้องสมุดทันสมัยเพื่อคนพันธุ์ใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต

ด้านนายวีระวัฒน์ กล่าวว่า จากการจัดโครงการห้องสมุดทันสมัยเพื่อคนพันธุ์ใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต เห็นได้ว่า การศึกษาเป็นส่วนสำคัญที่จะพัฒนาประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้โอกาสทางการศึกษาในแต่ละพื้นที่ ไม่ทัดเทียมกัน เนื่องด้วยปัญหาต่าง ๆ เช่นปัญหางบประมาณที่ไม่เพียงพอต่อการขยายศักยภาพ ในการศึกษาทั้งด้านบุคลากร สื่อการเรียนการสอน และอาคารเรียน ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาทางการศึกษาของเด็กให้ด้อยคุณภาพลง ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีที่มองเห็นคุณค่าของการพัฒนาให้เยาวชนมีแหล่งศึกษาค้นคว้าหาความรู้อีกทางหนึ่ง และเป็นการส่งเสริม ให้เยาวชนรักการอ่านหนังสือ รวมทั้งเป็นคนที่มีความรู้และมีคุณภาพของสังคมในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

งานวันเด็กเกาะมะพร้าว ประจำปี 2554


เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2553 ที่โรงเรียนเกาะมะพร้าว หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ชมรมชาวเหนือภูเก็ต – อันดามัน พร้อมด้วยสมาชิกชมรม นำโดยนางณัฐพร ผานิตพิเชษฐ์วงศ์ ประธานชมรม ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว นำโดยนายเกื้อเกียรติ จิตต์เกื้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเกาะมะพร้าวและ กศน.เมืองภูเก็ต ได้ร่วมกันจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 โรงเรียนเกาะมะพร้าว โดยมีเด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ประมาณ 200 คนเข้าร่วมงาน

ทั้งนี้นายยูโหนบ เพชรดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านเกาะมะพร้าวและประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานกล่าวว่า วันเด็กแห่งชาติเป็นวันที่ทางราชการกำหนดให้เป็นวันสำคัญเป็นอย่างยิ่งวันหนึ่ง เพื่อให้เด็กทุกคนได้รู้สึกเห็นความสำคัญของตนเอง คณะครู ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ควรร่วมมือกันส่งเสริมสนับสนุนในการจัดงานวันเด็ก เพื่อให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วม แสดงความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กๆ มีความสุขสนุกสนานและเพื่อสร้างความตระหนัก สร้างจิตสำนึกให้แก่เด็กทุกคนว่า เขาเป็นบุคคลสำคัญที่จะเติบโตขึ้นเป็นอนาคตของชาติ และเด็กควรจะต้องฝึกฝนตนเอง ให้มีความรับผิดชอบในหน้าที่ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ เพื่ออนาคตที่ดีต่อไป

สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 โรงเรียนเกาะมะพร้าวในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย กิจกรรมการแสดงความสามารถของตัวแทนนักเรียนชั้นเรียนต่างๆและเด็กก่อนวัยเรียน ทั้งการแสดงรีวิวประกอบเพลงเพื่อพ่อ, การเต้นประกอบเพลงลูกทุ่ง รวมทั้งการขับร้องเพลง นอกจากนี้ เปิดโอกาสให้เด็กทุกคน ที่มาร่วมงาน มีโอกาส จับฉลากของขวัญ ที่มีรางวัลใหญ่ เป็นรถจักรยานที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว 2 คัน และ จากชมรมชาวเหนือภูเก็ต-อันดามันอีก 3 คัน ในขณะเดียวกันยังมีส่วนร่วมสนุกสนานกับการเล่นเกม ตอบคำถามรับของรางวัล นอกจากนี้อดีตครูเกษียณอายุราชการโรงเรียนบ้านสะปำมงคลวิทยามอบทุนการศึกษาสำหรับเด็กดีเด่นทางด้านคุณธรรมและจริยธรรมรวม 10 ทุนด้วย


ระดมความเห็นแผนพัฒนาท่องเที่ยวกลุ่มอันดามัน


เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 ที่ ห้องภูเก็ตแกรนด์บอลรูม 2 โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 โครงการบูรณาการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันดามันสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลกบนฐานความเข้มแข็งของชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทางสำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นการศึกษาโครงการบูรณาการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันดามันสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลกบนฐานความเข้มแข็งของชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสถาบันการศึกษา สื่อมวลชนในพื้นที่ กลุ่มจังหวัดอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่และตรัง) เข้าร่วม

นายพีรบูรณ์ ทองศิริเศรษฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระดับกลุ่มจังหวัด ให้สอดคล้องกับแนวทางตามกรอบยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาลที่กล่าวมาในเบื้องต้น ยังไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายเท่าที่ควร เนื่องจากยังขาดกลไกการบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัดร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดการขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้เชื่อมโยงและเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ขาดการพัฒนาการตลาดการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการบริการให้อยู่ในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขาดการพัฒนากลไกการจัดการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการรักษาฐานทรัพยากรการท่องเที่ยว และการกระจายผลประโยชน์ลงสู่ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน

สำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ในฐานะหน่วยที่มีบทบาทและความรับผิดชอบในการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด ได้เล็งเห็นความจำเป็นในการแสวงหาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการจัดทำแผนการบูรณาการเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนากลไกการบริหารจัดการเชิงบูรณาการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันดามันสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลกบนฐานความเข้มแข็งของชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืน โดยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ทั้งนี้เพื่อจัดทำแผนและสร้างรูปแบบการทำงานเชิงบูรณาการในการพัฒนาและจัดการการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดอันดามันต่อไป นายพีรบูรณ์กล่าว

เรือหรูกว่า 40 ลำ ร่วมงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ต

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 ที่บริเวณท่าเทียบเรือ รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ตครั้งที่ 8 (Phuket International Boat Show หรือ PIMEX) ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต และอินฟอร์มา ยอช์ท กรุ๊ป ผู้จัดงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีน.ส.วรรณประภา สุขสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการ ททท.ภูเก็ต มร.กูลู ลาวานี ประธานบริหาร รอยัล ภูเก็ต มารีน่า, นายแอนดี้ ดาวเดน ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดงาน อินฟอร์มา ยอช์ท กรุ๊ป ตลอดจนผู้ร่วมจัดแสดงสินค้า และผู้สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยจัดขึ้นจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2554 ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมกว่า 6,000 คนจากทั่วภูมิภาค

นายแอนดี้ ดาวเดน ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดงาน อินฟอร์มา ยอชท์ กรุ๊ป ผู้จัดงานแสดงเรือนานาชาติภูเก็ต กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจและการท่องเที่ยวทางทะเลภูเก็ตและเอเชีย โดยใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ทุกภาคฝ่ายในกลุ่มธุรกิจได้ประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการสู่สายตาผู้ซื้อในตลาดระดับภูมิภาค และระดับโลก

“การแสดงเรือนานาชาติภูเก็ตนับได้ว่าเป็นงานแสดงเรือที่มีผู้ให้บริการรายใหญ่และจำนวนผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ได้มีการเพิ่มพื้นที่จัดแสดงบนผืนน้ำเพื่อให้สามารถรองรับเรือที่จะนำมาจัดแสดงบนผืนน้ำที่มีมากถึง 40 ลำ โดยเรือมีขนาดตั้งแต่ 7 เมตร จนถึงเรือซูเปอร์ยอช์ทขนาดใหญ่กว่า 28 เมตรขึ้นไป ตลอดจนเรือยอช์ทแบบมีเครื่องยนต์และไม่มีเครื่องยนต์ มีทั้งแบรนด์ที่ต่อในเมืองไทยและแบรนด์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก เช่น เรือแบรนด์ชั้นนำอย่าง Riva ซึ่งมาร่วมเป็นครั้งแรก โดยเป็นเรือยอดนิยมของเหล่าบรรดานักแสดงชื่อดังระดับโลก อาทิ จอร์จ คลูนีย์, คลาวเดีย์ ซิฟเฟอร์, บริเจต บาร์ดอท หรือ ลิซ เทเลอร์ นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงสินค้าและบริการไลฟ์สไตล์ทางเรืออีกกว่า 40 บริษัท ไฮไลท์อีกอย่าง คือ การจัดแสดงรถยนต์แบรนด์หรูจากจากัวร์ เช่น XJ ,XFR, XKR รวมถึงเล็กซัส และแลนด์ โรเวอร์”

นายแอนดี้ ดาวเดน กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากผู้จัดแสดงสินค้าอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจทางเรือ และกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นับเป็นสัญญาณที่ดีทั้งในแง่ของเศรษฐกิจของภูเก็ตและในระดับมหภาค เนื่องจากจำนวนผู้จัดแสดงและจำนวนเรือที่นำมาแสดงก็เพิ่มมากขึ้นทุกปี และ 25%ของเรือที่มาจัดแสดงบนผืนน้ำมีขนาดใหญ่กว่า 70 ฟุต สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจทางทะเลในภูเก็ตและภูมิภาคเอเชียกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าตลอดระยะเวลาในการจัดงาน 4 วัน จะมีจำนวนผู้เข้าชมประมาณ 6,000 คน และมากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะงานนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงงานสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมธุรกิจทางเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นงานที่ครอบครัวได้ใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภูเก็ต นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

7 วันอันตรายภูเก็ต ตาย 4 ราย ลดลง 50 %


นายสันติ์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถิติการป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ภาพรวม 7 วัน ในระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 53- วันที่ 4 มกราคม 2554 มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย รายแรกชื่อนายอุทัย ไหมคง อายุ 33 ปี, รายที่ 2- 3 น.ส. ARYPORN SUNTHORN อายุ 50 ปี กับนาย KONGSENG SUNTHORN อายุ 61 ปี เป็นชาวแคนาดา โดยชาวต่างประเทศทั้งสองรายเป็นผู้โดยสาร ซึ่งทั้ง 3 รายเหตุเกิดในพื้นที่ อ.ถลาง ส่วนรายที่ 4 ชื่อนายอเนก กาญจน์ชลไชย อายุ 21 ปี เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ลดลง 50% ซึ่งเกิดขึ้น 8 ราย เช่นเดียวกับจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุปีใหม่ 2554 เกิดขึ้น 67 ครั้ง ลดลงจากปี 2553 ประมาณ 22% ซึ่งเกิดขึ้น 86 ครั้ง ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บปี 2554 มีจำนวน 74 ราย ลดลงจากปี 2553 ประมาณ 19% ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 92 ราย

อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ยังคงมาจากเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด และตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุอันดับแรก ได้แก่รถจักรยานยนต์ รองลงมาเป็นรถปิกอัพและรถตู้ ทั้งนี้จากการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ทางกฎหมาย เช่น หมวกนิรภัย มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เมาไม่ขับ ใบขับขี่ เป็นต้น จากการตั้งด่านตรวจสกัดหลักในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง อ.เมือง ภูเก็ต อ.ถลาง และ อ.กะทู้ รวมจำนวน 9 ด่านตรวจ ผลปรากฏว่า มีการเรียกตรวจรวม 57,444 คัน มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจำนวน 3,469 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เมาสุรา มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ขับรถย้อนศร ใช้มือถือขณะขับรถ และแซงในที่คับขัน นายสันติ์กล่าวในที่สุด

รองผวจ.ฝากแกนนำเป็นต้นแบบให้กับเด็กๆ ด้วยกัน


เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานและกล่าวให้โอวาทในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการพบปะแกนนำสภานักเรียนจังหวัดภูเก็ต เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2554 โดยมีนายเจียร ทองนุ่ม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต รองผู้อำนวยฯ ครู และแกนนำสภานักเรียนจังหวัดภูเก็ตจากโรงเรียนต่างๆ เข้าร่วม

นายเจียร ทองนุ่ม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในฐานะกำกับดูแลรับผิดชอบเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรอันมีค่าในการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตเทียบเท่าอารยประเทศและเป็นความหวังของสังคมในการสืบทอดความเป็นชาติ ศาสนา ภูมิปัญญา วัฒนธรรมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนควรได้รับการเรียนรู้บทบาทหน้าที่ตามวิถีชีวิตประชาธิปไตย สามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ มีส่วนรับผิดชอบในกิจกรรมของสังคม เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาสังคมโดยใช้หลักธรรมาภิบาลเป็นกลไกการสร้างประสิทธิภาพความเป็นธรรมและสันติสุขในสังคมตั้งแต่สังคมระดับเล็ก สังคม โรงเรียน ครอบครัว ชุมชน จนถึงสังคมใหญ่ระดับประเทศ ดังนั้นการพัฒนาคณะกรรมการและองค์การสภานักเรียน ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาโรงเรียนตามกระบวนการและการสร้างความสมานฉันท์อย่างยั่งยืนถาวร

ขณะที่นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับแกนนำนักเรียนฯ ว่า การที่เด็กๆ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแกนนำนั้น เนื่องจากการทำความดีและเป็นแบบอย่างให้กับบุคคลอื่น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนรักษาความดีดังกล่าวไว้ให้ได้นานเท่านั้น และให้ทำความดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่น การช่วยเหลือพ่อแม่ ครูอาจารย์ การไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีทั้งหลาย เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆ ต่อไป

“ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนจงปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย รู้รักสามัคคี เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และรู้จักป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากยาเสพติด ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนใฝ่หาความรู้ศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอ ฝึกฝนทำการงานต่างๆ เพราะเด็กและเยาวชนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า มีภาระหน้าที่รับผิดชอบต่อจากผู้ใหญ่ในวันนี้” นายสมเกียรติกล่าว

“เยาวชนวัยใส หัวใจคุณธรรม”


เมื่อวันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554 ที่ห้องประชุมโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย นางสาวสดศรี ตันสุธัญลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย เป็นประธานเปิดอบรม “เยาวชนวัยใส หัวใจคุณธรรม” โดยมี นายทะนง องค์สันติภาพ ประธานเครือข่ายผู้ปกครองสาย ม.3 และคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองสาย ม.3 จัดขึ้น โดยการนิมนต์ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต มาเป็นวิทยากรการบรรยายธรรม มีนักเรียนในระดับ ม.3 คณะครู อาจารย์ เข้าร่วมการอบรม

ทั้งนี้นางสดศรี กล่าวว่าโครงการอบรมคุณธรรม ในหัวข้อ “เยาวชนวัยใส หัวใจคุณธรรม” มีวัตถุประสงค์ เพื่อปลูกฝังคุณธรรม พัฒนาให้มีจิตวิญญาณแห่งคุณธรรมในหัวใจ สร้างจริยธรรมให้กับนักเรียน ได้รับการเรียนรู้ในสิ่งที่ดีงาม สร้างระบบที่จะพัฒนาคุณธรรมให้กับสังคมอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งจิตใจ ที่จะเจริญงอกงามยิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้เด็กนักเรียนได้เห็นคุณค่าของธรรมมะมากยิ่งขึ้น

ด้านพระมหาสมปอง ตาลปุตโต ได้ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงของสังคมปัจจุบันที่ต้องควบคู่กับการปฏิบัติด้านธรรม ซึ่งการบรรยายได้รับความสนใจจากนักเรียน เข้าร่วมฟังจำนวนมากอย่างไรก็ตามหลังจากพระมหาสมปองบรรยายธรรมที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยแล้ว ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะบรรยายให้กับนักเรียนโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาด้วย

ตำรวจภูธรภูเก็ตกวาดล้างยาเสพติดต่อเนื่อง



เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ พ.ต.อ. ชลิต แก้วยะรัตน์ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ นวนหนู รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และผกก.สภ.ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตทั้ง 8 แห่ง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ช่วงวันที่ 30 ธ.ค.53 – 4 มกราคม 54

สำหรับผลการจับกุม สภ.เมืองภูเก็ตสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 18 ราย พร้อมด้วยของกลาง ไพ่ป๊อก 1 สำรับ เงินสดจำนวน 2,800 บาท ยาไอซ์ 1 ถุง , ยาบ้า, อาวุธปืน 2 กระบอก

ส่วน สภ.ถลาง ร่วมจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 2,333 เม็ด ยาไอซ์ 4 ถุง เฮโรอีน 2 หลอด กัญชา 1 ห่อ กระท่อม 530 ใบ เงินสด 50,000 บาท และอาวุธปืน 4 กระบอก

สภ.กะทู้ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,057 เม็ด, กัญชาและยาบ้า 1 ห่อ, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ 1 คัน และโทรศัพท์ 2 เครื่อง

สภ.ท่าฉัตรไชย ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,175 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, รถจักรยานยนต์ 3 คัน

สภ. เชิงทะเล ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 51 เม็ด, ยาไอซ์ 0.5 กรัม,อุปกรณ์สำหรับเสพยาเสพติด, เงินสด 28,580 บาท,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

สภ.ทุ่งทอง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า , กัญชา 66 กรัม
สภ.กมลา ได้ร่วมการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ พร้อมของกลางกัญชา แห้งบรรจุ 1 ห่อ 0.91 กรัม รถจักรยานยนต์ 1 คัน

และสภ. ฉลอง ร่วมจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 22 เม็ด

ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า การกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดติดและอาวุธปืนในครั้งนี้ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาเป็นการกวาดล้างผู้กระทำความผิดในพื้นที่เป้าหมายที่มีการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีการกระทำความผิด โดยการจู่โจมเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายได้ผู้กระทำความผิดเกือบทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติดและปัญหาอื่น ๆ ในพื้นที่ภูเก็ตให้หมดไป