เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 ที่บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินนะประยูร ผู้อำนวยการ ททท.ภูเก็ต นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายประเสริฐ ตันหรรษ์ ผู้จัดการสำนักงานขายจังหวัดภูเก็ต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตัวแทนท่าอากาศยานภูเก็ต ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์เส้นทางบินตรง กรุงโคเปนเฮเกน-ภูเก็ต เที่ยวบิน TG 953 ซึ่งการเดินทางครั้งนี้มี นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นหัวหน้าคณะนำผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประกอบการการท่องเที่ยว สื่อมวลชนและนักท่องเที่ยว รวม 336 คน
สำหรับการเปิดเส้นทางบินตรงจากกรุงโคเปนเฮเกน-ภูเก็ตดังกล่าว สายการบินไทยให้บริการผู้โดยสารสัปดาห์ละสามเที่ยวบินทุกวันพุธ วันศุกร์และวันอาทิตย์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 จำนวน 416 ที่นั่ง สำหรับการเดินทางกลับ ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อการเดินทางโดยใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ เส้นทางภูเก็ต-กรุงเทพ ของสายการบินไทย และต่อเที่ยวบินกลับโคเปเฮเกน โดยเที่ยวบินของการบินไทยเส้นทางกรุงเทพ-โคเปนเฮเกน ที่มีให้บริการทุกวัน
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่า ททท. กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดนักท่องเที่ยวเดนมาร์ก เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และไอซ์แลนด์)ซึ่งในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวจากเดนมาร์กเดินทางเข้ามาประเทศไทย จำนวน 150,300 คน และเดินทางมายังภูเก็ตจำนวน 92,518 คน มีอัตราขยายตัวร้อยละ 7.5 เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง เฉลี่ยคนละ 4,097 บาทต่อวัน ดังนั้นการเปิดเส้นทางบินตรงจากโคเปนเฮเกนมายังภูเก็ตในระยะนี้จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ช่วยลดระยะเวลาเดินทางซึ่งจะมีผลให้ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงได้รับนักท่องเที่ยวจากเดนมาร์กและประเทศใกล้เคียงเพิ่มขึ้น
“การมีเส้นทางบินตรงจากเดนมาร์กมายังภูเก็ตจะเป็นการเพิ่มโอกาสเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเดนมาร์กและประเทศใกล้เคียงซึ่งนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวภาคใต้ฝั่งอันดามันไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต พังงาหรือกระบี่ และการใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ก็สามารถที่จะขนผู้โดยสารเดินทางเข้ามาได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนและจะสิ้นสุดประมาณเดือนมีนาคม และการเปิดเส้นทางบินในระยะนี้จะเป็นส่วนช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกต้องว่ายังมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมากของประเทศไทยยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ เพราะสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นนั้นมีเพียงบางพื้นที่เท่านั้น ประกอบกับจะทำให้คณะของสื่อมวลชนและผู้ประกอบการที่เดินทางร่วมมาด้วยได้เห็นถึงความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ”นายสุรพลกล่าว