เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (อาคารหลังใหม่) นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2554 เพื่อร่วมกันประสานวางแผนและแก้ไขปัญหาการจราจรจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งติดตามผลการดำเนินการแก้ไขเกี่ยวกับจุดเสี่ยงและบริเวณอันตรายบนทางหลวงในจังหวัดภูเก็ต โดยมีตัวแทนจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เกี่ยวข้องด้านการจราจรและการขนส่ง การพัฒนาเมืองและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม
ทั้งนี้นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบา รอบเกาะภูเก็ต ว่า สืบเนื่องจากการประชุมเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2553 เห็นชอบให้ก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบาแต่ยังไม่มีงบประมาณ เห็นควรเสนอของบประมาณโดยผ่านกระทรวงคมนาคม ซึ่งต่อมากระทรวงคมนาคมแจ้งว่าไม่มีงบประมาณเช่นกัน ต้องให้เอกชนเข้าดำเนินการ และในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด (กรอ.จังหวัดภูเก็ต) เมื่อต้นเดือนกันยายน 2553 มีมติให้จังหวัดจัดหาผู้มาทำการศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าฯ โดยมีเงื่อนไขว่าทางราชการไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินของทางราชการในค่าศึกษาและออกแบบ และทางจังหวัดฯ ได้ทำหนังสือเชิญบริษัท แพนไชน่า คอนตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด และบริษัท Ershisanye Construction Group จำกัด ทำการศึกษาโครงการ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร จากการที่ได้มีการสอบถามทราบว่ายังมีความสนใจอยู่
อย่างไรก็ตามนายประเจียด ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดภูเก็ตได้เคยมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบเบื้องต้นโครงการรถไฟฟ้ารางเบารอบเกาะภูเก็ต ได้ข้อสรุปว่า ให้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาใน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทางสนามบิน-ห้าแยกฉลอง 2.เส้นทางจากสามแยกบางคู –ตัวเมืองภูเก็ต- ห้าแยกฉลอง และ 3.ตัวเมืองภูเก็ต-กะทู้-ป่าตอง รวมระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 12,000-13,000 บาท ซึ่งก็ยังไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าจะมีบริษัทสนใจที่จะเข้ามาลงทุนก็ตาม โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งคิดว่าในอนาคตจะมีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะมีการประชุมร่วมกันมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น