จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

ติวเข้ม กต.ตร.ภูเก็ต ร่วมต่อต้านยาเสพติด


เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2554 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา โครงการสัมมนาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดภูเก็ตและสถานีตำรวจ ต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติด ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น โดยมีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรในสังกัด คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและสถานีตำรวจ (กต.ตร.) ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม

พ.ต.อ.ชาณุชาญ ชลสุวัฒน์ ผกก.ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจภูธรภาค 8 ได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการจัดสัมมนา ตามโครงการสัมมนาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดและสถานีตำรวจ ต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติด เพื่อทำความเข้าใจถึงแนวทางการพัฒนา กต.ตร.ในทุกระดับ ประสานความเข้าใจระหว่างข้าราชการตำรวจกับประชาชนในการปฏิบัติงานร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมยาเสพติด การจราจร ที่เกิดขึ้นในชุมชน เพื่อร่วมกันสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง กำหนดข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาด้านการบริหารจัดการสถานีตำรวจหรือหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ ตามนโยบายของรัฐบาล

ด้านพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวตอนหนึ่งของการสัมมนาฯ ว่า เป้าหมายของการสัมมนาฯ มุ่งเน้นที่จะให้การประสานความเข้าใจของข้าราชการตำรวจกับภาคประชาชนเกิดประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาหน่วยงานแบบมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนอย่างแท้จริง มุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจกับคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน เพื่อจะได้ปรับกลยุทธ์ในการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อหน่วยงาน และทราบถึงปัญหาในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด การจราจร และปัญหาอื่นๆ เพื่อนำมาเสนอแนะและกำหนดแนวทางในการพัฒนาร่วมกัน

พล.ต.ต.พิกัด กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปัญหาใหญ่ของภูเก็ต คือ การแพร่ระบาดของยาเสพติดแม้ว่าจะมีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ในปี 2553 มีการจับกุมดำเนินคดีถึง 3,000 คดี และในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายนนี้จับกุมได้แล้วประมาณ 1,500 คดี แต่นั่นเป็นการดำเนินการที่ปลายเหตุ สำคัญ คือ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างยิ่งจริงจัง จะทำเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้ โดยให้นโยบายไปกับทุกสถานีตำรวจในการตั้งคณะกรรมการที่มีภาคประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และให้เลือกหมู่บ้านหรือชุมชนนำร่องพื้นที่ละหนึ่งแห่งในการแก้ปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยปลุกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักให้เห็นถึงโทษภัยที่เกิดจากยาเสพติด มีการสำรวจผู้เสพและผู้ค้า จากนั้นก็ร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาและ ยับยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ถัดมาเรื่องของปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหายาเสพติด เมื่อคดียาเสพติดมีจำนวนมากก็ทำให้ปัญหาอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์ก็จะมากตามไปด้วย ในส่วนของตำรวจได้เน้นย้ำให้มีการสั่งฟ้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และส่วนใหญ่การจับกุมได้จะมาจากการขยายผลการจับกุมจากคดีหนึ่งไปยังอีกคดี ส่วนของทรัพย์ที่ได้คืนก็เพียง 20% เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น