เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554 ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมพงษ์ อ่อนประเสริฐ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอาวุธ วงษ์สวัสดิ์ ผู้ช่วยพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นายสุชาติ หิรัณย์กนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และนายจเรวัต ชนะปราชญ์ ประธานชมรมเชฟภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “ภูเก็ต ช่องทางเกษตรอินทรีย์ กับชีวิตที่เลือกได้” หรือ Organic : Alternative Lift ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน 2554 ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาจะประกอบด้วยโรงแรมร้านอาหาร ชมรมเชฟ ร้านของฝากที่ระลึก อปท. เอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พาณิชย์จังหวัดภาคใต้ และแหล่งผลิตที่สำคัญ 200 ราย มีการออกบู๊ทผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศ 30 ราย การบรรยายพิเศษ และการแข่งขันปรุงอาหารเมนูเกษตรอินทรีย์ รวมถึงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายสมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการ ภายใต้โครงการส่งเสริมตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตและการตลาดให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ มีการเชื่อมโยงตลาดสินค้าท้องถิ่น ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีช่องทางการจำหน่ายทั้งในท้องถิ่นและภูมิภาค สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับเกษตรกร ชุมชน และผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอินทรีย์ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทำให้เกิดการตื่นตัว/กระตุ้นให้เยาวชนนิยมบริโภคเพิ่มสุขภาพ รวมทั้งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนให้มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผู้ประกอบการ รวมทั้งข้อมูลด้านการตลาดที่ทันสมัย สามารถใช้ในการจัดทำแผนด้านการตลาดเชิงรุก ส่งผลให้ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสามารถใช้ประโยชน์ได้ และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตก็เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักเห็นถึงความสำคัญ โอกาสทางการตลาด และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เพื่อการท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานด้านความปลอดภัยด้านอาหาร และให้กลุ่มเป้าหมายร่วมขับเคลื่อนการนำเกษตรอินทรีย์สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น เมนูอาหารจากเกษตรอินทรีย์ จัดมุมจำหน่ายสินค้าอินทรีย์ ร้านอาหารอินทรีย์ เป็นต้น
นายสมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ภาคเกษตรอินทรีย์เป็นภาคเกษตรที่เติบโตเร็วที่สุดของภาคอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก จากรายงานสภาพการณ์เกษตรอินทรีย์โลก (The World of Organic Agriculture : Statistics and Emerging Trends) ระบุว่า มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์โลกรวมกันกว่า 217.75 ล้านไร่ โดยในปี 2008 มูลค่าการขายสูงถึง 50,900 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ITC (International Trade Center) ยังได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2553 ตลาดเกษตรอินทรีย์จะเติบโตอยู่ที่ 102,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรปเป็นมูลค่า 46,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (52%) และสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่า 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือ ตลาดออสเตรเลีย ตลาดญี่ปุ่น และตลาดอื่น ๆ แม้เศรษฐกิจโลกจะถดถอยแต่สินค้าเกษตรอินทรีย์มีลู่ทางและโอกาสอีกมากในการเจาะตลาดสำคัญๆ เพื่อส่งออก ทั้งนี้ประเทศไทยก็เป็นผู้ส่งออกผักผลไม้เมืองร้อนรายหลักให้กับโลกมาตลอด และยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้การผลิตสินค้าอินทรีย์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพราะเกี่ยวเนื่องต่อสุขภาพอนามัยของเกษตรกรและประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าทางการค้า ซึ่งเป็นมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และสิ่งแวดล้อมของประเทศที่ปราศจากมลพิษ ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์พื้นดินและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้คงอยู่อย่างยั่งยืนถาวร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น