เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 54 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานอาเซียนสัมพันธ์ 2011 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มี รศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รองอธิบการบดี ผู้บริหารทุกระดับ อาจารน์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ครู และนักเรียนจากโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติและประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม
ผศ.ดรุณี บุณยอุดมศาสตร์ ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานโปรแกรมวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องด้วยปี 2558 ประเทศไทยจะต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมกับประเทศเพื่อนบ้านอีก 9 ประเทศ ดังนั้นในอนาคตจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีของกลุ่มประชาคมอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ เพราะฉะนั้นในอีกสี่ปีข้างหน้า คนไทยไม่เพียงที่จะต้องแข่งขันกับคนไทยกันเองเท่านั้น แต่จะต้องแข่งขันกับเพื่อนบ้านอีก 10 ประเทศด้วย
ดังนั้นเยาวชนรุ่นใหม่จำเป็นต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ และต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องปรับปรุงทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาขั้นพื้นฐานสำหรับการสื่อสารในอาเซียน นอกจากนี้เยาวชนยังต้องเรียนรู้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านให้สามารถสื่อสารได้ และอีกทั้งต้องมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันอีกด้วย จึงจะมีโอกาสที่จะได้งานทำมากขึ้นในอนาคต
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาและประชาชนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงจัดโครงการอาเซียนสัมพันธ์ 2011 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชน มีความรู้เกี่ยวกับอาเซียนมากขึ้นและเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่ต่างกัน ตลอดจนมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในการจัดกิจกรรม
ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 4 ปีเท่านั้น ที่ประเทศไทยและกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งอาเซียนจะเป็นหนึ่งเดียวทั้งในเรื่องของการตลาด ฐานการผลิตสินค้าและบริการ การลงทุนและในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านประชาคมเศรษฐกิจ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะทำให้เกิดการเปิดกว้างในการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างประเทศ ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น และจะทำให้กลุ่มอาเซียนมีอำนาจในการต่อรองเจรจาในระดับโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ทุกประเทศในอาเซียนรวมถึงประเทศไทยกำลังเร่งรีบพัฒนาในทุกด้านเพื่อพร้อมรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นี้
จังหวัดภูเก็ตเช่นเดียวกันเรากำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับประโยชน์ที่จะเกิดจากการค้าเสรีอาเซียนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน 4 ปีข้างหน้านี้โดยยกระดับจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวในอาเซียน และมีเป้าหมายสำคัญคือการขยายฐานนักท่องเที่ยวและการลงทุนด้านการท่องเที่ยวจากไทยไปสู่อาเซียนให้มากขึ้น ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตจึงต้องมีการเตรียนมความพร้อมในทุกด้าน โดยร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
"ในวันนี้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และได้จัดกิจกรรมหลายอย่างอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเตรียมบุคลากรที่มีคุณภาพที่จะรองรับกับตลาดอาเซียน อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสถาบันศึกษาในระดับต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียงในการรณรงค์ให้เยาวชนมีความรู้ และตระหนักในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังที่ได้รับทราบว่ามีความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้จากหลายสถาบัน ซึ่งผมขอชื่นชมในความร่วมมือร่วมใจของท่านในครั้งนี้" นายไพบูลย์ กล่าวในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น