เมื่อคืนของวันที่ 1 สิงหาคม 54 พ.ต.ท.นนน พิทักษ์กุลธร สารวัตรเวรสภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายปล้น – ฆ่า ชิงทรัพย์ชาวต่างชาติ เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดที่หมู่บ้านเดอะแลนด์เทิร์น บายแกรนด์การ์เด้นท์ เลขที่ 20/16 – 20/32 ถนนเทพกระษัตรี ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วย รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมคิด บุญรัตน์ รองผกก.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 44 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่แพทย์เวรรพ.วชิระภูเก็ตและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านหรูราคาแต่ละหลังราคาประมาณ 15 – 20 ล้านบาท ที่ประตูทางเข้าหมู่บ้านพบประชาชนทั้งไทยและเทศมุงดูเหตุการณ์อยู่จำนวนมาก บริเวณหน้าป้อมยามภายในหมู่บ้านพบศพนาย MAKSIM SCHANTZ (แมกซิม แชนส์) อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย เชื้อชาติสวีเดน อาชีพเป็นสถาปนิกออกแบบสระว่ายน้ำ เช่าอยู่เลขที่ 20/27 ภายในหมู่บ้าน ห่างจากจุดพบศพราว 100 เมตร สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงยีนต์ขายาว ข้อมือด้านขวาสวมสร้อยข้อมือ หนัก 1 บาท 1 เส้น มือด้านซ้ายสวมนาฬิกา 1 เรือน นอกจากนี้บริเวณด้านข้างผู้ตายเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ 1 ใบ ตรวจสอบทรัพย์สินภายในกระเป๋าพบโน้ตบุค 1 เครื่อง เงินสด 1,800 บาท โทรศัพท์มือถือ แบล็คเบอร์รี่ 1 เครื่อง ชาลิปตัน 1 กระป๋อง ไฟแช็ค 1 กระบอก บัตรวีซ่า 1 ใบ จากการตรวจสอบร่างกายผู้ตาย พบว่าถูกแทงที่บริเวณต้นคอด้านขวาตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบคราบเลือดที่ฝาผนัง – ประตูป้อมยามหมู่บ้าน และที่พื้นถนนเรื่อยไปจนถึงหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าว พบหมวกและหน้ากากหมวกกันน๊อคสีดำตกอยู่ที่พื้น โดยที่หน้าบ้านนายแมคพบรถจักรยานยนต์คาวาซากิ 250 ซีซีสีเขียว ทะเบียน ขทจ 883 ภูเก็ตจอดอยู่หน้าบ้านพัก ที่พื้นใกล้กับรถพบเชือกหนังสีดำตกอยู่ โดยมีคราบเลือดและร่องรอยการต่อสู้ แต่ประตูบ้านยังล๊อคอยู่ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่นายแมคถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนทำร้ายร่างกาย ก่อนที่นายแมคจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือกับยามหมู่บ้านที่ป้อมยาม หลังเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุแล้ว ก็ได้มอบศพให้มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายพิษณุ นุ้ยขาว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/4 ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่ามีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติจำนวน 2 คนใช้มีดจี้ชิงรถ จยย.ฮอนด้าสีน้ำเงินเข้ม ทะเบียน ขทจ 729 ภูเก็ตแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี แต่ไม่พบวี่แวว จากนั้นชุดสืบสวนเริ่มทราบรูปพรรณของคนร้าย จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้งไว้บริเวณทางเข้าหมู่บ้านและบริเวณป้อมยาม พบ 1 ใน 2 ชายชาวต่างชาติมีพิรุธเข้าออกหมู่บ้านก่อนเกิดเหตุเพียงไม่ถึง 1 ชม.โดยชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้เช่าบ้านเลขที่ 20/21 ตรงข้ามกับบ้านของนายแมค ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายทอมมี่ วิคเตอร์ อายุ 26 ปีชาวสวีเดน โดยเข้าอยู่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วันเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยัง ตม.ภูเก็ต เพื่อตรวจเช็คหนังสือเดินทางและการเข้าออกประเทศไทย และ จ.ภูเก็ต แต่ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด จากการตรวจสอบบ้านพักของนายทอมมี่กลับไม่พบหลักฐานใดๆ ซึ่งคาดว่าอาจมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงประสานไปยังด่านตรวจภูเก็ต สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าออกทางบกเพียงทางเดียว รวมไปถึงด่าน ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อสกัดจับแล้ว
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายแมค มีอาชีพเป็นสถาปนิกออกแบบสระว่ายน้ำให้กับบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต โดยได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเดือนละ 40,000 บาท เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาอยู่เพียงลำพัง และจากข้อมูลยังพบว่านายแมคมีแม่เป็นชาวสวีเดน เชื้อสายรัสเซีย และเป็นเจ้าของบริษัทรับบริหารจัดการด้านการตลาดชื่อดังอยู่ที่เมืองพัทยา โดยก่อนหน้าที่นายแมคเคยอยู่ที่เมืองพัทยามาเช่นเดียวกัน แต่ก่อนที่นายแมคจะมาอยู่เมืองไทยเคยทำธุรกิจบางอย่างร่วมหุ้นกับนายทอมมี่เพื่อนรักชาวสวีเดนที่ประเทศสวีเดน แต่สุดท้ายเกิดความขัดแย้งกันขึ้นถึงขั้นปิดบริษัท ก่อนนายแมคจะบินมาอยู่ที่เมืองพัทยากับแม่ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นายทอมมี่อดีตหุ้นส่วนได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับ สภ.เมืองพัทยาและสถานทูตสวีเดนประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสอบข้อมูลนายทอมมี่ ขณะเดียวกันได้รวบรวมหลักฐานเสนอต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับนายทอมมี่แล้ว ส่วนชายชาวต่างชาติอีก 1 คนที่ร่วมกันก่อเหตุและหลบหนี ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร โดยหลังก่อเหตุพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของนายทอมมี่ใช้ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่บริเวณหาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในเกาะภูเก็ตอย่างแน่นอน ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทที่นายแมคสวมใส่และหายไปนั้น คาดว่าเป็นการอำพรางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่สาเหตุหลักๆ คาดว่าเป็นการฆ่าชำระแค้นในการหักหลังธุรกิจบางอย่างระหว่างนายแมคกับนายทอมมี่ที่เคยร่วมกันลงทุนในประเทศสวีเดน และคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น