เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) การสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 (ถนนเทพกระษัตรี) กับ ทางหลวงหมายเลข 402 (ทางเลี่ยงเมืองภูเก็ต) ซึ่งกรมทางหลวง โดยสำนักสำรวจและออกแบบ ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา ประกอบด้วยบริษัท เอพซิลอน จำกัด บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท ที.พี.เอฟ.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดขึ้น
เพื่อนำเสนอความเป็นมา วัตถุประสงค์ ขอบเขตขั้นตอนการศึกษาของโครงการและแนวทางการดำเนินของโครงการ รวมถึงด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์ต่อหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลโครงการ และให้ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ โดยมีผู้บริหารกรมทางหลวง หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เอกชนและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม
นายเกษม ศรีวรานันท์ วิศวกรใหญ่ด้านการสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ตเป็นท่องเที่ยวสำคัญ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปีละเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 402 (ถนนเทพกระษัตรี) กม.8+211 กับทางหลวงหมายเลข 402 (ทางเลี่ยงเมืองภูเก็ต) กม.0+000 หรือสามแยกบางคู ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องออกแบบจัดการให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันและอนาคต จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วยบริษัท เอพซิลอน จำกัด บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท ที.พี.เอฟ.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในวงเงินประมาณ 8 – 10 ล้านบาท ทำโครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 (ถนนเทพกระษัตรี) กับ ทางหลวงหมายเลข 402 (ทางเลี่ยงเมืองภูเก็ต) โดยใช้เวลาดำเนินการ 300 วัน ระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน 2554 – วันที่ 29 มีนาคม 2555 เพื่อช่วยทำให้เกิดการพัฒนาระบบทางหลวงและสนับสนุนโครงการ
เบื้องต้นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้เสนอทางเลือกเบื้องต้น 3 แนวทาง ประกอบด้วย รูปแบบที่ 1 (Y-Type) โครงสร้างยกข้ามกระแสจราจรสองระดับ กำหนดให้ทิศทางเลี้ยวขวาจากสนามบินภูเก็ตไปทางเลี่ยงเมือง เป็นโครงสร้างยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร และรถเลี้ยวขวาจากทางเลี่ยงเมืองเข้าตัวเมืองภูเก็ตเป็นโครงสร้างยกระดับขนาด 1 ช่องจราจร
รูปแบบที่ 2 (Trumpet Type) มีลักษณะช่องจราจรสำหรับรถเลี้ยวขวาเป็นโครงสร้างยกข้ามช่องทางรถผ่านตรง โดยกำหนดให้รถในทิศทางเลี้ยวขวาจากทางเลี่ยงเมืองเข้าตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณจราจรน้อยกว่าให้ผ่านช่องทางต่อเชื่อมวน 1 ช่องจราจร และทิศทางรถเลี้ยวขวาจากสนามบินภูเก็ตไปทางเลี่ยงเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณรถมากกว่าให้ผ่านช่องทางต่อเชื่อมตรง ขนาด 2 ช่องจราจร
และรูปแบบที่ 3 (สะพานข้ามแยก) เป็นการกำหนดให้เส้นทางที่มีปริมาณจราจรมากคือ เส้นทางเลี้ยวขวาจากถนนเทพกระษัตรีเข้าถนนเลี่ยงเมืองภูเก็ตเป็นถนนระดับดิน และก่อสร้างสะพานตามแนวถนนเทพกระษัตรีเป็นสะพานข้ามทางแยกขนาด 4 ช่องทางจราจร ส่วนรถจากถนนเลี่ยงเมืองภูเก็ตที่จะเลี้ยวขวาเข้าเมืองภูเก็ต ที่มีปริมาณค่อนข้างน้อยให้เลี้ยวซ้ายและไปกลับรถเพื่อเข้าเมืองภูเก็ต
ทั้งนี้หน่วยงานต่างๆ ได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ภาพรวมสรุปว่าไม่ต้องการที่จะให้ก่อสร้างเป็นสะพานยกระดับ เพราะจะเป็นการทำลายทัศนียภาพของเมืองท่องเที่ยว ควรนำเส้นทางเลือกที่เป็นลักษณะทางลอดมากกว่านี้ และควรที่จะศึกษาไปจนถึงบริเวณแยกเกาะแก้ว เพราะเป็นจุดที่มีปัญหาจราจรติดขัดอย่างมากโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งช่วงเช้าและเย็น รวมทั้งควรที่การศึกษาการเพิ่มเส้นทางจราจรเข้าออกตัวเมืองภูเก็ตเพิ่มเติม และการแก้ปัญหาไม่ควรจะทำเพียงจุดใดจุดหนึ่งแต่ควรมองปัญหาทั้งระบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น