เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 ที่ห้องประชุม 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต หลังใหม่ อ.เมือง ภูเก็ต ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด (กรอ.)จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2/2554 โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน และมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยหนึ่งในวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาแนวโน้มราคาสินค้าและมาตรการป้องกันและแก้ไขราคาสินค้าแพงอันเนื่องมาจากปัญหาวิกฤติน้ำท่วม
ซึ่งทางตัวแทนจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศได้ส่งผลในเรื่องเกิดปัญหาการผลิต การขนส่งและการจำหน่ายสินค้า เนื่องจากผู้ประกอบการผลิตหลายรายไม่สามารถผลิตสินค้าและส่งเข้าสู่ตลาดได้ ในขณะที่ความต้องการมีสูง ส่งผลให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็มีมาตรการในการควบคุมราคาสินค้าอยู่แล้ว รวมถึงนโยบายการนำเข้าสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีพจากต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยสินค้าและบริการ ไม่มีหน้าที่และอำนาจในการจะสั่งให้ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้า เพราะเป็นเรื่องของนโยบายส่วนกลาง จากปัญหาที่เกิดขึ้นก็ได้มีการลงไปตรวจสอบห้างร้านต่างๆ โดยกำหนดมาตรการห้ามกักตุนสินค้าและการขึ้นราคาที่ไม่เป็นธรรม หากพบก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนสินค้าและการปรับขึ้นราคาสินค้าเป็นเรื่องเร่งด่วน การจะรอส่วนกลางนั้นคงไม่ทันการณ์ จึงอยากให้มีการเรียกประชุมในส่วนของคณะกรรมการส่วนจังหวัดฯ เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาระดับพื้นที่ก่อน เพราะเข้าใจได้ว่าขณะนี้มีปัญหาการขนส่งสินค้าลำบาก แต่สิ่งที่ได้รับการร้องเรียนมานั้นจะเป็นเรื่องการกักตุนสินค้าและการปรับขึ้นราคาที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้นหน่วยงานระดับจังหวัดจะต้องเป็นที่พึ่งในเบื้องต้นให้กับประชาชน และจะต้องมาหารือร่วมกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งจะต้องคิดนอกกรอบ และต้องเป็นผู้นำ เนื่องจากจะต้องหาวิธีการในการรับมือ เพราะไม่ใช่เฉพาะดูแลประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว
ด้านนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวก็จะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการส่วนจังหวัดฯ เป็นการด่วน เพื่อมารับทราบปัญหาและกำหนดแนวทางในการแก้ไขที่ชัดเจน แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ แต่อาจจะยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจะต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบโดยชุดเฉพาะกิจ ซึ่งอาจจะเป็นสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าภาครัฐไม่ได้ละเลย เมื่อตรวจพบก็จะต้องมีการดำเนินตามกฎหมายทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น