จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

แม่น้อง “ปอย ตรีชฎา” แจงข้อเท็จจริง




เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2555 ที่ห้องประชุมศูนย์ข่าวภูเก็ต สำนักงานประชาสัมพันธ์ภูเก็ต นางสุวภัทร เพชรรัตน์ อายุ 44 ปี พร้อมด้วยนายเอกฉัตร พรหมศรี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/676 หมู่ 2 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นมารดา และบิดาของน้องปอย ตรีชฎา ได้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภูเก็ต กรณีมีการโพสต์ข้อมูลในโซเซียลมีเดี่ย เกี่ยวกับกรณีการเกิดเหตุการณ์การแผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และมีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง



สำหรับเนื้อหาในโพสต์มีใจความว่า มีใจความว่า “เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต ได้มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นคือ มีหญิงสาววัยกลางคน 2 คน ได้มีอาการแปลกๆ ขึ้น คือ อยู่ดีๆ เธอทั้ง 2 คน ก้อร้องให้..หนักมาก..หลังจากนั้นเธอทั้ง 2 ก้อพูดแทนตัวเองว่า..เธอคือย่ามุก กับย่าจัน แล้วก้อบอกกับคนที่นั้นว่า..ให้ทุกคนอพยพออกจากเกาะภูเก็ต ภายในวันที่ 28 เมษายน 55 เหตุเพราะเกาะภูเก็ตจะจมหายไปจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ (ที่น่าตกใจคือ หญิงสาวทั้ง 2 คน ไม่รู้จักกันมาก่อน และหนึ่งในนั้น คือ แม่ของปอยที่เปนสาวประเภท 2 ด้วย..) เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน..(ด้วยความปรารถนาดีจากคนภูเก็ตด้วยกัน)” 


นางสุวภัทร กล่าวอีกว่า ส่วนโพสต์ดังกล่าวตนไม่ได้พบเห็นกับตัวเอง แต่ได้รับแจ้งจากเพื่อน ก็เลยได้เข้าไปดูข้อมูล ตอนแรกก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่หลังจากนั้นมีโทรศัพท์เข้ามาตลอด ทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันจนไม่เป็นอันทำอะไร และที่สำคัญตนเกรงว่าคนเขาจะมองว่าคนภูเก็ตลวงโลก ซึ่งก็หวั่นว่าจะกระทบกับจังหวัดภูเก็ตมากกว่า จึงได้มาแถลงข่าว เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจต่อข้อมูลข่าวสารดังกล่าวว่า “ตนไม่รู้เห็นกับข้อมูลดังกล่าวเลย ซึ่งในวันที่ 16 เม.ย.ตนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ไม่ได้เดินทางไปโรงพยาบาลกรุงเทพ แต่อย่างใด และก็ไม่เคยให้ข่าวในลักษณะดังกล่าว ถึงแม้ว่าในวันที่ 16 เม.ย.จะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตจริง จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนัก ใช้สติในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร” 


นอกจากนี้ขอความร่วมมือไปยังผู้โพสต์ ซึ่งทราบว่าเป็นเด็กผู้หญิง อาจจะไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาในวงกว้าง ให้ได้ออกมาขอโทษคนภูเก็ต พร้อมกับชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพราะสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นผลเสียทั้งสิ้น ขณะที่ในส่วนของผู้ที่แชร์ข้อมูล เราไม่สามารถห้ามได้ แต่การแชร์ข้อมูลควรที่จะหยุดแชร์ออกไป เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องสนุก และไม่มีข้อมูลความเป็นจริงเลย ก็กลัวว่าจะมีผลกระทบกับภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว 


ส่วนกรณีที่ผู้โพสต์ได้อ้างตนไปนั้น ตนก็ไม่ทราบเหตุผล เพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่รู้จักกับเด็กคนดังกล่าวเลย “จะกลัวคนมองว่าเราสร้างกระแสหรือไม่นั้น ซึ่งน้องปอยก็มีงานทำอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสร้างกระแส เราเองก็ไม่เคยเปิดเผยว่าเราเป็นแม่น้องปอย เราก็ทำงานใช้ชีวิตปกติ ขณะที่น้องปอยเองก็ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แล้วก็ได้มีการเข้าไปโพสต์ต่อไป ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ควรเข้าไปโพสต์แบบนี้”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น