เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 ที่ห้องประชุมศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวราไวย์ จ.ภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ร่วมกับ นายวีระ กาวิเศษ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ราไวย์ จังหวัดภูเก็ต ในพระอุปถัมภ์ฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นายเสทือน มุขดี ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลราไวย์ และนายวิรัช จิรวัฒนวิจิตร รองประธานคณะทำงานขับเคลื่อนภาคประประชาชนชนศูนย์ 3 วัยฯ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน
“สืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ ครั้งที่ 5” ประจำปีงบประมาณ 2555 ซึ่งทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวตำบลราไวย์ฯ ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้
นายวีระ กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ได้ทรงมีพระกระแสรับสั่งถึงแนวทางในการดำเนินงานว่า ควรมีศูนย์กลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เน้นความต่อเนื่องเชื่อมโยงเป็นวงจรของทุกช่วงวัย ภายใต้การดำเนินงานของหลักเหตุผลตั้งแต่การสร้างความคิดรวมยอด การกำหนดคำจำกัดความที่ชัดเจน และถ่ายทอดลงสู่ระดับต่างๆ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยคำนึงถึงปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ตลอดจนข้อดี ข้อเสียต่างๆ ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้น้อมนำพระกระแสรับสั่งมาดำเนินการเป็นโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว
และเป็นแนวทางในการจัดตั้ง ศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ได้แก่ วัยเด็ก วัยพ่อแม่ และวัยปู่ย่าตายาย โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผ่านทางศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุภูเก็ต จัดตั้งศูนย์ 3 วัย ฯ ขึ้นในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต และทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวตำบลราไวย์และสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย โดยยึดแนวทางการดำเนินงาน คือ เตรียมพร้อมก่อนครองคู่เรียนรู้ร่วมกันแต่ในครรภ์ คิดสร้างสรรค์แต่เยาว์วัย ครอบครัวเสริมกายใจ ผู้สูงวัยสานใยรัก
การจัดงานสืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ ครั้งที่ 5 เป็นกิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งของทางศูนย์ฯ ด้วยเห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของผู้มีภูมิรู้ในด้านต่างๆ ในอดีต ซึ่งความรู้ความสามารถเป็นภูมิปัญญาส่วนตัว หากไม่ได้รับการฟื้นฟู หรือถ่ายทอดสู่อีกรุ่นหนึ่ง ภูมิปัญญาต่างๆ ที่สั่งสมอยู่กับผู้สูงอายุก็จะสูญหายไป ดังนั้นจึงได้รวบรวม และคัดเลือกภูมิปัญญามาเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่สมาชิกรุ่นหลัง โดยตำบลราไวย์ เป็นพื้นที่ที่มีภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นของดีที่มีอยู่ในชุมชนจำนวนมาก เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สูงอายุ เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นและสังคมของตนเอง นายวีระกล่าว
ขณะที่นายวิรัช กล่าวว่า กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านต่างๆ อาทิ วิถีชาวราไวย์ วิถีประมง อาหาร ภูมิปัญญาวิถีชาวบ้าน การกวนกาละแม รำวงย้อนยุคของชาวไทยใหม่ การจัดนิทรรศการ การออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนในภาคกลางคืนยังมีการแสดงของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป้าหมายของการจัดในครั้งนี้ มุ่งหวังให้ประชาชนทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ตได้มีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม และอนุรักษ์ไม่ให้สูญหายไปจากสังคม
ทางด้านนายอรุณ กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนในตำบลราไวย์ แสดงให้เห็นถึงความรักความสามัคคีของคนในชุมชนของคนในชุมชน ไม่มีการแบ่งแยกไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม ซึ่งทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นปกติสุข โดยมีศูนย์ 3 วัยฯ เป็นหน่วยงานสร้างสรรค์กิจกรรมให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของการจัดงานสืบสาน เล่าขาน ภูมิปัญญาชาวราไวย์ ในครั้งนี้ทางเทศบาลฯ ได้อุดหนุนงบประมาณในการจัดงาน จำนวน 200,000 บาท นอกจากนี้ยังได้เชิญสื่อมวลชนจากไต้หวันมาร่วมทำข่าวเพื่อนำกลับไปเสนอและประชาสัมพันธ์ให้ชาวไต้หวันได้รับทราบด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น