จังหวัดภูเก็ตในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคน ก่อให้เกิดธุรกิจเกี่ยวกับที่พักที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ตั้งแต่ระดับหนึ่งดาว ถึงห้า – หกดาว ตั้งแต่ขนาดเล็กสิบกว่าห้อง ไปจนถึงโรงแรมขนาดใหญ่ 300 – 400 ห้อง ธุรกิจ รีสอร์ท บังกะโล เกสเฮาส์ แมนชั่น อพาทเมนท์เซอร์วิส และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ เรายังขาดที่พักในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อย่างเช่น วังน้ำเขียว นครราชสีมา
เรายังขาดที่พักในลักษณะของแค้มปิ้ง กางเต็นท์ อย่างเช่น สวนผึ้ง ราชบุรี เรายังขาดที่พักสำหรับคนเฉพาะกลุ่มเช่นผู้สูงอายุ แถบชานเมืองในกรุงเทพ เรายังขาดที่พักลักษณะของโฮมสเตย์ อย่างเช่นตลาดน้ำอัมพวา ฯลฯ
หลายๆ คนอาจจะเคยคิดที่จะทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบวังน้ำเขียว หรือคิดจะหาพื้นที่เพื่อทำที่กางเต็นท์ แค้มปิ้ง แบบเขาค้อ แต่อาจติดขัดที่บรรยากาศ ติดขัดเรื่องพื้นที่หรือทำเลที่ตั้ง ติดขัดที่ภาพลักษณ์และแนวคิดเดิมๆ ที่ว่าภูเก็ตต้องขายหาดทรายและทะเล และประเด็นที่สำคัญติดขัดในการจัดหาพื้นที่ และทำเลที่เหมาะสม ซึ่งแน่นอนพื้นที่และทำเลที่เหมาะสม ราคาต้องสูงจนนำไปสู่ติดขัดเรื่องงบประมาณ
คานีต้ารีสอร์ทแอนแค้มปิ้ง จึงเป็นโครงการเล็กๆ ที่ต้องการตอบโจทย์ทางด้านการท่องเที่ยวข้างต้น ด้วยวิธีคิดที่แตกต่างจากภาพลักษณ์เดิมของที่พักที่ต้องเป็นตึก หรือโรงแรมหรู ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมทั้งสร้างโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้มาเรียนรู้ในราคาที่เป็นไปได้ โดยนำนำเอาแนวคิดเศรษฐกิจแบบพอเพียง มาสู่การปฏิบัติและนำไปสู่การเรียนรู้สำหรับกลุ่มและองค์กรต่างๆ อย่างแท้จริง
นายสัจพล ทองสม ผู้บริหารคานีต้ารีสอร์ทแอนแค้มปิ้ง ได้กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ที่ได้ทำบังกะโลและรีสอร์ทเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวพักเป็นรายเดือน จากการทำบริษัทก่อสร้าง และจากประสบการณ์ที่ได้เป็นเจ้าของสำนักงานกฎหมาย ที่มุ่งเน้นในเรื่องการปรึกษาการลงทุนให้ชาวต่างชาติ จนถึงวันนี้รู้ว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าพักในภูเก็ต แต่ละกลุ่มอายุ แต่ละกลุ่มเชื้อชาติ ฯลฯ ต้องการอะไรที่ภูเก็ต และได้เรียนรู้ว่าคนไทยกลัวในเรื่องค่าที่พัก ค่าครองชีพ จนเลือกภูเก็ตเป็นลำดับสุดท้ายในการเลือกแหล่งพักผ่อนประจำปี ประกอบกับมีแหล่งทุนที่สำคัญอยู่ในมือและอยู่ในทำเลที่เหมาะสม นั่นก็คือ ที่ดินขนาดประมาณ 30 ไร่ ในระดับความสูงที่สามารถมองเห็นวิวทะเลของชายหาดกะรนอย่างชัดเจน จึงเกิด คานีต้ารีสอร์ทแอนด์แค้มปิ้ง ขึ้น
คานีต้ารีสอร์ทแอนด์แค้มปิ้ง ตั้งอยู่ห่างจากชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง ภูเก็ต ประมาณ 2 กม. ภายในโครงการประกอบไปด้วยที่พักและกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของที่พักในระยะยาวของผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการความเงียบสงบอย่างแท้จริง โดยการก่อสร้างเป็นลักษณะของอาคารคอนกรีตมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันเทียบเท่าโรงแรมระดับห้าดาว จำนวน 20 หลัง มีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์พัก สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการเผชิญภัย พร้อมบริการจักรยานปั่นออกกำลังกาย ในเส้นทางแหล่งท่องเทียวของหาดกะตะกะรน และป่าตอง หรือการปั่นเล่นแถวชายหาด ที่ห่างออกไปแค่หนึ่งกิโลเมตร
ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ชอบไลฟ์สไตล์ บูติค ทันสมัย เราก็มีห้องพักขนาดเนื้อที่ 50 ตารางเมตร/ห้อง จำนวน 30 ห้องพัก ไว้บริการพร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เนตความเร็วสูง เคเบิลทีวี โทรศัพท์ พร้อมสระว่ายน้ำขนาด 5 X 15 เมตร โดยเฉพาะในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบวิถีชีวิตของเกษตรกร เรามีพื้นที่สำหรับสำหรับปลูกสวนผลไม้นานาชนิด รวมถึงการปลูกผักและพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ แปลงผักปลอดสารพิษ และแปลงกล้วยไม้นานาพันธ์ให้นักท่องเทียวได้ชื่นชม
นายสัจพล ยังกล่าวอีกว่า เราเชื่อมั่นในโอกาสและความเป็นไปได้ เพราะเราเกิดอยู่ในตลาดของการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก ที่ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อยากมาเยี่ยมชม เรารู้และเข้าใจความต้องการนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และถึงแม้สถานการณ์การท่องเที่ยวหรือภาวะเศรษฐกิจของโลกตะวันตกจะเปลี่ยนไป แต่เราก็ได้ออกแบบ คานีต้ารีสอร์ทแอนด์แค้มปิ้ง เพื่อรองรับกลุ่มประชุมและสัมมนารวมถึงการศึกษาดูงาน ที่เป็นชาวไทย เพราะที่นี่คือแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจชุมชน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในโอกาสต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น