จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล ดำน้ำเก็บขยะ



เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2555 ที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเลครั้งที่ 1 หรือ 1 st GO ECO PHUKET ซึ่งทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต , กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต,องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ,สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต, ศูนย์นเรนทร โรงพยาบาลวชิระ,
เทศบาลตำบลราไวย์ ,เทศบาลตำบลฉลอง ,สถานีตำรวจภูธรตำบลฉลอง, บริษัท กมลาไดฟ์ เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัทพาดี /โปรเจ็กต์ อะแวร์ รวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจทางทะเลและธุรกิจดำน้ำ จัดขึ้น


โดยกำหนดให้มีกิจกรรมการเก็บขยะใต้ทะเลบริเวณเกาะเฮ เกาะราชาใหญ่และเกาะราชาน้อย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจทางทะเลและธุรกิจดำน้ำ ได้สนับสนุนเรือโดยสารและเรือสำหรับธุรกิจดำน้ำ ประเภท Live Abroad จำนวน 13 ลำ ลำเลียงนักดำน้ำจิตอาสาจากทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศประมาณ 600 คน ไปเก็บขยะตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้เทศบาลตำบลฉลอง ยังได้ร่วมกับคณะนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมรณรงค์จัดเก็บขยะบริเวณชายหาดอ่าวฉลองอีกส่วนหนึ่งด้วย 


นายธเนศ มั่นน้อย ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาขยะในทะเลเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษาและผู้ประกอบการดำน้ำ เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงร่วมกันจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล ในโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเลครั้งที่ 1 หรือ 1 st GO ECO PHUKET ขึ้น เพื่อปลุกจิตสำนึกการท่องเที่ยวทางทะเล และให้เข้าใจถึงการท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าในรูปแบบของการอนุรักษ์ ตลอดจนรณรงค์ลดการทิ้งขยะลงในทะเล และเพื่อส่งเสริมหรือเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลรวมทั้งธุรกิจดำน้ำของจังหวัดภูเก็ต 


ขณะที่นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันจัดกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเลอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกๆ ปี เพื่อให้การบูรณาการการเก็บขยะใต้ท้องทะเลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะภูเก็ตมีเนื้อที่ประมาณ 543 ตารางกิโลเมตร มีเกาะบริวารจำนวนมากถึง 37 เกาะ และแต่ละเกาะเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาหลังจากพักผ่อนท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ตแล้ว ก็จะมีโปรแกรมไปดำน้ำชมปะการัง และท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ดังนั้นต้องยอมรับความเป็นจริงว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวที่เกาะต่างๆ นั้น ก็จะมีปัญหาขยะเกิดขึ้น จึงจำเป็ฯที่จะต้องมีการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะไม่ทิ้งขยะหรือสิ่งของต่างๆ ลงไปในทะเลหรือบนเกาะ ซึ่งในส่วนของตนเองพร้อมที่จะเชื่อมประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษาและผู้ประกอบการดำน้ำและท่องเที่ยวภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมลักษณะเช่นนี้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น