ร้องจังหวัดแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายย้ายเรือสินค้า

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม เรื่อง การพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาในการนำเรือเรือท่องเที่ยวเข้าเทียบท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ภก.308 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ครั้งที่ 1/2555 โดยมีนายธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต ตัวแทนสำนักงานงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต 

นายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการท่าเรือน้ำลึกสงขลาและภูเก็ต บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด นาย Steve Lee กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด และนายธานินทร์ ถ้ำสุวรรณ บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด ตัวแทนสายเรือท่องเที่ยว ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยบริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด ตัวแทนสายเรือท่องเที่ยว แจ้งว่าไม่เห็นด้วยในหลักการปฏิบัติกรณีผู้บริหารจัดการท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ได้กำหนดให้เรือท่องเที่ยวเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเข้า-ออกของเรือสินค้า โดยมิได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมหารือถึงความเหมาะสมแต่อย่างใด จึงเกรงว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปจะเกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัด จึงขอให้ทางจังหวัดได้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

นายธานินทร์ ถ้ำสุวรรณ บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด ตัวแทนสายเรือท่องเที่ยวกล่าวว่า ด้วยบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนสายเรือท่องเที่ยว มีเรือเข้าเทียบท่าในจังหวัดภูเก็ตเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ลำ มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อสัปดาห์ จำนวน 3,000 คน มาตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษ โดยเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตและชายหาดป่าตองตามความเหมาะสมของสภาพอากาศในแต่ละช่วง ซึ่งในการเข้าจอดเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกจะมีการแจ้งตารางการเดินเรือล่วงหน้าเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งในบางสัปดาห์หากมีเรือขนส่งสินค้าอื่นมาเทียบท่าก่อน ก็จะให้ย้ายออกเมื่อเรือท่องเที่ยวมาถึง และย้ายกลับเข้ามาเมื่อเรือท่องเที่ยวออก แต่เมื่อเดือนกันยายน 2553 ทางผู้บริหารท่าเรือน้ำลึก แจ้งว่าให้เรือท่องเที่ยวเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเข้า-ออกของเรือขนส่งสินค้า โดยไม่ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือความเหมาะสม ทางเรือท่องเที่ยวไม่เห็นด้วยกับหลักปฏิบัติการดังกล่าว แต่ไม่มีทางเลือกจึงยอมรับในค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกว่าห้าแสนบาท 

ขณะที่นายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการท่าเรือน้ำลึกสงขลาและภูเก็ต บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด ผู้บริหารท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ชี้แจงว่า โดยหลักปฏิบัติสากลการจัดท่าเรือให้เรือเข้าเทียบท่าโดยทั่วไปจะยึดหลักผู้ใดมาก่อน จะได้รับบริการก่อน แม้ว่าจะมีการจองล่วงหน้า แต่หากพบเรือลำอื่นจอดทำงานอยู่เรือที่จองท่าไว้ก็ต้องคอยจนกว่าเรือที่จอดอยู่ก่อนทำงานเสร็จ จึงเข้าเทียบท่า กรณีของท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าเรือสินค้า มีความยาวหน้าท่า 360 เมตร กรณีที่เป็นเรือมีขนาดยาวไม่เกิน 175 เมตร สามารถจอดได้พร้อมกัน 2 ลำ และต่อมาได้ขนาดให้เรือขนาดไม่เกิน 210 เมตรเข้าจอดได้ หากพิจารณาด้านความปลอดภัยในการนำเรือเข้า-ออก และความคงทนแข็งแรงของหน้าท่าแล้วไม่ควรนำเรือท่องเที่ยว หรือเรือโดยสารอื่นๆ ที่มีความยาวเกิน 210 เมตรเข้าจอด แต่เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว จึงอนุโลมให้เรือโดยสารดังกล่าวเข้าเทียบท่าได้ 

แต่มีการทำข้อตกลงกับเรือสินค้าว่า ในขณะที่เรือสินค้าทำงานอยู่และมีเรือโดยสารท่องเที่ยวเข้ามาเทียบท่าและหน้าท่าไม่พอ เรือสินค้าจะต้องเคลื่อนย้ายออกไป หรือหากเรือสินค้ามาถึงและมีเรือโดยสารท่องเที่ยวเทียบท่าอยู่ก็จะต้องรอจนเรือโดยสารฯ ออกไปก่อน โดยให้เรือโดยสารรับผิดชอบค่าเคลื่อนย้ายเรือสินค้าลำที่ถูกเคลื่อนย้ายออกไป ประมาณครั้งละ 60,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือ ซึ่งเทียบไม่ได้กับค่าใช้จ่ายในการเช่าเรือรายวันวันละ 450,000-600,000 บาท รวมถึงต้องเสียเวลาในการลงสินค้า 

นายวัฒนชัยกล่าว และว่าไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจึงมีปัญหา เนื่องจากเรื่องนี้ได้แจ้งไปตั้งแต่ปี 2553 และไม่ได้จ่ายทุกครั้งที่เข้ามา จะจ่ายเฉพาะที่มาเจอเรือสินค่าทำการเทียบท่าอยู่เท่านั้น
นายวัฒนชัย กล่าวด้วยว่า ทางท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตมีแผนในการขยายหน้าท่าจาก 360 เมตร เป็น 420 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับเรือโดยสารและเรือสินค้าได้พร้อมกัน รวมทั้งก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและลานจอดรถโดยสาร ซึ่งกรมธนารักษ์เห็นชอบแล้ว แต่เรื่องยังติดอยู่ในการพิจาณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งใช้เวลามาร่วม 2 ปีแล้ว หากรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านก็จะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 9 เดือน ซึ่งจะบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แต่ในระยะนี้ก็คงยึดถือปฏิบัติเช่นเดิม

อย่างไรก็ตามหลักจากมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันจากทุกฝ่ายทั้งตัวแทนจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ตัวแทนเรือโดยสาร ตัวแทนเรือสินค้า นายสมเกียรติ กล่าวว่า เนื่องจากทางผู้บริหารท่าเรือน้ำลึกยังคงยืนยันหลักการปฏิบัติเดิมก็ต้องว่ากันไปตามนั้นก่อน ขณะเดียวกันของขอให้ทางตัวแทนเรือท่องเที่ยวได้ชี้แจงเหตุผลรายละเอียดที่ทางผู้บริหารท่าเรือจำเป็นต้องให้เรือโดยสารเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเรือสินค้าให้กับทางผู้บริหารเรือท่องเที่ยวได้รับทราบด้วย ซึ่งในส่วนของจังหวัดก็จะได้นำเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และอาจจะมีการเสนอเป็นยุทธศาสตร์ในเรื่องของท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตด้วย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทางเรือ และอาจจะมีการนำเสนอปัญหาดังกล่าวในการประชุม ครม.สัญจรที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีในเร็วๆ นี้