เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2556 บริเวณขุมเหมืองเจ้าฟ้า ซ.ทรงคุณ ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง ผกก.สส. สภ.ฉลอง และนายสุวัฒน์ บุปผะโพธิ์ ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองภูเก็ต นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองภูเก็ต รวมกว่า 60 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย
และร่วมทำความเข้าใจกับชาวบ้านชุมชนบ้านคลองมุดง (ฉลอง) กว่า 50 คน ที่รวมตัวกันคัดค้านการเข้ามารังวัดที่ดิน จำนวน 2 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ หลังเจ้าหน้าที่รังวัด นำโดย นายสุรกิจ รชตรมยกร นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้เข้ามาทำการรังวัดที่ดิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปทำการรังวัดที่ดินได้โดยสะดวก
สำหรับการเข้ารังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของโฉนดที่ดินทั้ง 2 แปลง ว่า มีชาวบ้านเข้าไปบุกรุกจับจองพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย จึงต้องการที่จะทำแนวเขตให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการบุกรุก พร้อมกันนี้ทางตัวแทนบริษัทผู้ถือครองโฉนดที่ดินทั้ง 2 แปลง ได้นำเอกสารหลักฐานซึ่งเป็นโฉนดมาแสดงต่อกลุ่มผู้คัดค้านด้วย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้ชี้แจงว่า เพื่อความเป็นธรรมและให้เกิดความชัดเจนก็จะต้องให้มีการรังวัดแนวเขตที่ดินดังกล่าว หลังจากเจรจากันพอสมควรสุดท้ายก็ยินยอมให้มีการรังวัด
ทั้งนี้หนึ่งในชาวบ้านที่รวมตัวกันคัดค้านการรังวัดแนวเขตที่ดิน กล่าวว่า ชาวบ้านได้มีการจับจองที่ดินดังกล่าว และมีการปลูกสิ่งปลูกสร้างมาระยะหนึ่งแล้ว ประมาณ 10 กว่าหลัง และยังมีการจับจองพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง โดยมีเนื้อที่คนละประมาณ 3 ห้อง หรือ ขนาด 15x 20 เมตร เพราะถือว่าเป็นที่ดินรกร้างและเป็นที่สัมปทานเหมืองแร่ และที่ผ่านมาก็ไม่มีใครมาแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของ ซึ่งการคัดค้านการรังวัด เนื่องจากต้องการสิทธิที่ดินดังกล่าวซึ่งได้เข้ามาอยู่อาศัยนานแล้ว ส่วนกรณีที่มีเอกชนอ้างว่ามีหลักฐานโฉนดก็อยากให้มีหน่วยงานภาครัฐมาเป็ฯตัวกลางและยืนยันความชัดเจน
ขณะที่ตัวแทนของเอกชนเจ้าของกรรมสิทธิ์ซึ่งได้มีการนำหลักฐานมาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่และผู้คัดค้านได้รับทราบ กล่าวว่า เหตุที่ต้องนำเจ้าหน้าที่มาทำการรังวัด เพราะพบว่ามีการบุกรุกสร้างสิ่งปลูกสร้างเข้ามาในพื้นที่ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ จึงต้องการให้เกิดความชัดเจน และยืนยันว่าไม่ได้รังแกชาวบ้าน แต่ต้องการรักษาสิทธิ์ของตนเองเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็เข้ามาดูแลที่ดินตลอด รวมทั้งได้มีการทำรั้วลวดหนามกั้นแนวเขต แต่ปรากฏว่าถูกรื้อทิ้งหมด และเคยพยายามเข้ามารังวัดแนวเขตแล้วแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากโดนข่มขู่ ครั้งนี้จึงต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่มาคุ้มกันด้วย เพื่อจะได้มีการทำแนวเขตให้ชัด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มผู้ที่มาคัดค้านต่างบอกว่า มาคัดค้านแทนเพื่อน โดยไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีใครยอมบอกชื่อหรือนามสกุล บอกเพียงแต่ว่ามาขอความเป็นธรรม แทนเพื่อนซึ่งมาอยู่อาศัยเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินดังกล่าว ซึ่งระบุว่ามีข้าราชการคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง และมีการแบ่งพื้นที่ขายเป็นห้องๆ โดยทางจังหวัดได้สั่งการให้ทำสำรวจข้อเท็จจริงว่า ที่ดินที่มีการปรับหน้าดินนั้นมีเอกสารสิทธิหรือไม่อย่างไร หรือเป็นที่ดินของรัฐก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กรณีที่เป็นการบุกรุกใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น