เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง เพื่อขยายโอกาสทางการค้าในตลาด AEC ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น
เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง หรือ Self-Certification ในการทำการค้ากับอาเซียน ซึ่งจะก้าวเข้าสู่ความเป็น AEC ในปี 2558 โดยมีนายประคอง รักษ์วงษ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต นางสาวศุภัชชา บุญผลิตการค้าภายในจังหวัดภูเก็ต นายจงรักษ์ นฤขัตพิชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนผู้ผลิต ผู้ส่งออก ตัวแทนผู้ส่งออก-นำเข้า หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุมชนและสถาบันการศึกษาในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
นางวิไลวรรณ กล่าวว่า การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง หรือ Self-Certification เป็นการอนุญาตให้ผู้ทำการค้า หรือผู้ส่งออกได้รับความไว้วางใจที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเองในใบกำกับสินค้า (Invoice) หรือในเอกสารทางการอื่นๆ ในการขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในกลุ่มอาเซียน แทนการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D ที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
“Self-Certification เป็นผลมาจากการที่อาเซียนได้กำหนดเป้าหมายในการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 โดยจะเป็นตลาดร่วมตลาดเดียว ซึ่งมีฐานการผลิตร่วมกัน มีการเคลื่อนย้ายบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนระหว่างกันอย่างเสรีมากขึ้น การนำระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตัวเองของผู้ส่งออกมาใช้ นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และลดขั้นตอนการจัดทำเอกสารการส่งออกของผู้ประกอบการด้วย”
นางวิไลวรรณ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันประเทศที่นำระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองมาใช้มี 4 ประเทศ ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์ เริ่มใช้เป็นโครงการนำร่องระหว่างกันแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ส่วนประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ 4 ที่เข้าร่วมโครงการนำร่อง โดยได้ให้สัตยาบันกับ 3 ประเทศแรก เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 ทั้งนี้ผู้ส่งออกที่จะได้รับสิทธิรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับกรมการต่างประเทศก่อน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ส่งออกได้รับการขึ้นทะเบียนไปแล้วจำนวนหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น