จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สบ.10 ติดตามคดีวางระเบิดโรงจอดรถ อบจ.ภูเก็ต



ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดบริเวณโรงจอดรถด้านข้างอาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ซึ่งตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลให้รถยนต์ของ อบจ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายจำนวนมา 5 คัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องตั้งเวลาอานุภาพไม่ร้ายแรง 


ต่อมาเวลา 22.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ.10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที และ พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดดำเนินการติดตามหาคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษ 


พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ.10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังประชุม ว่า ได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เร่งคลี่คลายคดีและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ในแนวทางการสอบสวน จะต้องมีการสอบปากคำพยานอย่างละเอียด โดยเฉพาะพนักงานในสำนักงาน อบจ.ภูเก็ต ที่คาดว่าจะเห็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว 


 “จากการที่ได้ประชุมร่วมกับทางผู้เกี่ยวข้อง เชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ จะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เรื่องการประกอบระเบิดอย่างแน่นอน เพราะผู้ที่จะประกอบระเบิดแสวงเครื่องได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของระเบิด ส่วนสาเหตุยังไม่ได้มุ่งไปประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่คาดว่าจะเป็นการข่มขู่ ซึ่งจะต้องเรียกพยานมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุต่อไป” 


พล.ต.อ. รชต กล่าวด้วยว่า จากการเก็บพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุพบว่า ระเบิดที่วางนั้นเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาด้วยนาฬิกาข้อมือดิจิตอล บรรจุในกล่องลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทำจากสังกะสี คล้ายกล่องใส่ชา ภายในบรรจุดินปืน 


และลวดเหล็กขนาด 1 หุน ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร จำนวนมาก โดยสามารถเก็บสะเก็ดระเบิดในรถตู้และบริเวณใกล้เคียงได้จำนวนหนึ่ง รวมทั้งเศษกระป๋อง แม้ว่าระเบิดดังกล่าวจะมีแรงดันต่ำ แต่สามารถที่จะทำอันตรายกับคนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หลังเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ อส. คุมเข้มและเข้มงวดตรวจตราบุคคล-ยานพาหนะเข้าออกศาลากลางจังหวัดมากขึ้นกว่าเดิมตลอด 24 ชม.โดยเฉพาะเวลากลางคืน เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น