จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คนร้ายลอบวางระเบิดข้างที่จอดรถยนต์นายกอบจ.



เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 พ.ต.ท.เฉลียว ท้ายฮู้ สารวัตรเวร สภ.เมือง ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ว่า เกิดเหตุระเบิดบริเวณที่จอดรถด้านข้างสำนักงาน อบจ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย 


หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยนางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.เสน่ห์ ยาวิละ, พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที, พ.ต.อ.พีรยุทธ์ กาละเจดีย์, พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธ์ สิริคง ผกก.พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง รองผกก.สส.สภ.เมือง ภูเก็ต ฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต 


ที่เกิดเหตุเป็นที่จอดรถอยู่บริเวณที่จอดรถผู้บริหาร อบจ.ภูเก็ต ใกล้กับอาคารสำนักงาน อบจ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่พบเศษถังขยะสีฟ้า(ด้านข้างเขียนข้อความถังขยะเทศบาลนครภูเก็ต) แตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบข้าราชการและพนักงานของ อบจ.ภูเก็ต และศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ออกมามุงดูด้วยความตกใจ และต่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวไปต่างๆ นานา 


นอกจากนี้ยังพบนายชวลิต ณ นคร และนายสรธรรม จินดา รองนายก อบจ.ภูเก็ต มาตรวจสอบความเรียบร้อย ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต ซึ่งในช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในสำนักงานฯ ก็ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบรายละเอียด และประชุมร่วมกับทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีที่ทราบเรื่อง 


ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบรถตู้โตโยต้า สีบรอ์น หมายเลขทะเบียน นข.3383 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถของ อบจ.ภูเก็ต ที่บริเวณด้านประตูคนขับ พบร่องรอยการถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย กระจกด้านข้างแตกและบริเวณด้านหลังรถตู้ พบรถยนต์ซูซูกิ สวีป สีดำ หมายเลขทะเบียน กย.2719 ภูเก็ต ได้รับความเสียหายเล็กน้อยรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน กจ.2345 ภูเก็ต ยางล้อหน้าแตก


รถยนต์โตโยต้า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 6856 และรถยนต์ออนด้า กพ 4906 ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ห่างจากรถตู้ประมาณ 10 – 15 เมตร เจ้าหน้าที่พบเศษนาฬิกา ถ่านไฟฉาย สายไฟ น๊อต และเศษเหล็กเล็กๆ กระจายไปทั่วบริเวณ และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุด EOD พบว่า ระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็ก จุดชนวนด้วยนาฬิกา และคนร้ายหมายข่มขู่ หรืออาจจะเกิดความขัดแย้งภายในองค์กร 


น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่องตั้งเวลาโดยใช้นาฬิกาคาสิโอ โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยมีความเสียหายกับรถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเล็กน้อย เบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาเป็นการข่มขู่หรืออาจจะเกิดจากความขัดแย้ง ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวโยงกับเรื่องของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังจากนี้ก็จะได้สั่งให้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งปกติก็จะมีกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว 


ขณะที่ พ.ต.อ.เสน่ห์ กาวิละ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้มีอานุภาพไม่รุนแรง ซึ่งจากแรงระเบิดไม่ประสงค์ต่อชีวิต แต่เป็นลักษณะของการข่มขู่ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นก็จะได้สอบสวนต่อไป และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากไม่ประสงค์ต่อชีวิต และที่เกิดเหตุไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามารักษาความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ปฏิบัติงานอยู่แล้ว 


ทางด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะในส่วนของ อบจ.เองก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง หรืองบประมาณต่างๆ และไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองด้วย เนื่องจากผ่านการเลือกตั้งมานานแล้ว และการเลือกตั้งของภูเก็ตเมื่อจบแล้วก็จบเลย ซึ่งจากการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่า ระเบิดที่ใช้ไม่ได้มีความรุนแรง และไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต เป็นเพียงการข่มขู่ 


“สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการประมูลเช่าพื้นที่ของ อบจ. ซึ่งมีการดำเนินการอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และมีการประมูล จึงทำให้อาจจะมีผู้ไม่ถูกใจก็เป็นได้ ส่วนที่จะประสงค์ต่อชีวิตของตนนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะปัจจุบันตนนั้นรักษาอาการของโรคมะเร็งอยู่” 


นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้หนักใจอะไร และที่ผ่านมาตนก็เดินทางไปไหนมาไหนโดยลำพัง แต่ในส่วนของสำนักงาน อบจ.ซึ่งเป็นสถานที่ราชการก็คงต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย และอาจจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีเฉพาะภายในสำนักงานก็จะเพิ่มในส่วนของภายนอกด้วย อย่างไรก็ตามภูเก็ตเป็นเมืองสงบ และเราเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้นมองว่าไม่น่าจะมีการก่อเหตุเพื่อทำลายบรรยากาศของการท่องเที่ยว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น