เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ที่บริเวณหนองน้ำในหาน หมู่ที่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช 5 ธันวามหาราช
โดยมีนายธีระพงศ์ อภัยภักดี รักษาการประมงจังหวัดภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลราไวย์ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ประชาชน นักเรียนนักศึกษา หน่วยงานราชการและผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่เข้าร่วม
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย การปล่อยพันธุ์กุ้งทะเล จำนวน 1 ล้านตัว ปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว จำนวน 10,000 ตัว และการทำความสะอาดบริเวณหนองน้ำในหาน แหลมพรหมเทพ หาดในหานและหาดราไวย์
นายธีระพงศ์ อภัยภักดี รักษาการประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กรมประมงมีความประสงค์ให้สำนักงานประมงจังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกับหน่วยงานกรมประมงและส่วนราชการท้องถิ่นดำเนินการจัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ
เพื่อถวายความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ เป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลราไวย์และประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดงานปล่อยพันธุ์กุ้งทะเล จำนวน 1 ล้านตัว และปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว จำนวน 10,000 ตัว รวมทั้งการทำความสะอาดบริเวณแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ตำบลราไวย์ด้วย เช่น แหลมพรหมเทพ หาดในหาน หาดราไวย์ เป็นต้น
วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากเพื่อประกอบกิจกรรมอันเป็นการเทิดพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราชแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในบริเวณหนองน้ำในหาน ให้มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำตามธรรมชาติ
เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนบริเวณนี้ ให้มีความอยู่ดีมีสุข ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นการปลูกฝังสร้างจิตสำนึกให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ การบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ และสิ่งแวดล้อมในบริเวณหนองน้ำในหานให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน
โดยชุมชนมีส่วนร่วม รวมทั้งเพื่อเป็นการประสานความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคี และรวมพลังกันระหว่างกลุ่มบุคคลจากหน่วยงานภาครัฐ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เครือข่ายชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนทั่วไปในการประกอบกิจกรรมอันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น