เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ผู้สื่อข่าวได้รายงานความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่มีการติดตั้ง ไว้ในรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน บท 4840 นนทบุรี ซึ่งได้มีการเคลื่อนย้ายมาไว้ที่บริเวณลานกลางแจ้งบริเวณที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
หลังจากที่มีการตรวจสอบพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ สภ.เมืองภูเก็ต และพบว่าภายในรถมีการติดตั้งถังแก๊สไว้ 2 ถัง จนกระทั่งมีการสืบทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายวิธาน ยาชำนาญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/-3 ถ.ชัย-มงคล ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เลขที่ 65/3 ถ.กลาพอ-ทุ่งยางแดง หมู่ 9 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยป้ายทะเบียนที่แท้จริงคือ ผฉ 708 สงขลา
ทั้งนี้มีข่าวจากแหล่งข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า วัตถุต้องสงสัยที่ติดตั้งอยู่ในรถคันดังกล่าวนั้นเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบด้วย ถังแก๊สสีเขียวของ ปตท.ขนาดบรรจุแก๊ส 16 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง และเมื่อนำถังไปชั่งน้ำหนักพบว่า มีน้ำหนักถังละ 90 กิโลกรัม รวมประมาณ 180 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังพบนาฬิกาตั้งเวลา ยี่ห้อ คาซิโอ รุ่น f 200
ตั้งเวลาทำงานไว้ที่ 14.45 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2556 (เป็นวันเดียวกับที่มีการระเบิดบริเวณลานจอดรถ อบจ.ภูเก็ต) ซึ่งหลังจากการเก็บกู้แล้วเสร็จ ทางชุดเก็บกู้ระเบิดฯ ได้นำถังแก๊ส พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ กลับไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตก็ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าใครเป็นผู้นำรถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ และตั้งแต่เมื่อใด ซึ่งครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ชนวนระเบิดดังกล่าวไม่ทำงาน
ขณะที่ พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดชนิดไหน ซึ่งคงต้องให้ผู้ชำนาญการเป็นผู้ตรวจสอบ ทั้งมูลเหตุ ลายนิ้วมือ และอื่นๆ โดยขณะนี้การเก็บกู้ต่างๆ ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ จะได้นำหลักฐานต่างๆ กลับไปตรวจสอบอย่างละเอียด
ส่วนของมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้ก็จะมีการเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ในเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดูแลและตรวจสอบรายละเอียด เบื้องต้นทราบเพียงว่ารถคันดังกล่าวมีคดีที่ จ.ปัตตานี และได้มีการประสานมายังตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอรับรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น