เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2557 ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม สรุปผลการดำเนินงานป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน และทางทะเลช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2557
โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงษ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสันติ์ จันทรวงษ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต นายสมัคร เลือดวงหัด แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต นายจตุรงค์ แก้วกสิ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน เข้าร่วมประชุม
สำหรับผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ วันที่สอง (12 เม.ย.57) ของการรณรงค์ฯ พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 1 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย มีการเรียกตรวจผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย ทั้งหมด 482 ราย ดำเนินคดี 306 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 615 ราย ดำเนินคดี 74 ราย เมาแล้วขับ 396 ราย ดำเนินคดี 25 ราย ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด 39 ราย ดำเนินคดี 39 ราย
ฝ่าฝืนไฟจราจร เรียกตรวจ จำนวน 5 ราย ขับรถย้อนศร 6 ราย ดำเนินคดี 6 ราย ใช้มือถือขณะขับรถ 10 ราย ดำเนินคดี 8 ราย ขณะที่การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางทะเล ยังไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีนักท่องเที่ยวและเรือโดยสารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เดินทางออกจากท่าเทียบเรือ จำนวน 9 ท่าที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต จำนวน 293 ลำ เพิ่มขึ้นจากวันแรก 12% และมีนักท่องเที่ยวออกจากท่า 10,313 คน เพิ่มขึ้นจากวันแรก 15%
ทั้งในภาพรวมของการดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบุติทางถนน ในระหว่างวันที่ 11-12 เมษายน 2557 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และประเภทของรถที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่จะเกิดอุบัติเหตุในถนนสายรอง (ถนนเทศบาล/ อบต.)
ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายและเรียกตรวจอย่างต่อเนื่อง ทั้งใบขับขี่ การสวมหมวกนิรภัย และการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงนอกจากนี้ยังได้แสดงความห่วงใยการจราจรทางขึ้น-ลงเขาป่าตอง เนื่องจากจะมีปริมาณการจราจรมากกว่าปกติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น