เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2557 ที่ห้องประชุมโรงเผาขยะมูลฝอยชุมชนและผลิตไฟฟ้า เทศบาลนครภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา และคณะประชุม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยกรมควบคุมมลพิษ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และเทศบาลนครภูเก็ต
โดยมีพลเรือโทธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวภาวิณี ปุณณกันต์ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและในพื้นที่เข้าร่วมประชุม ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ร่วมประชุมได้เข้าเยี่ยมชมบริเวณพื้นที่หลุมฝังกลบขยะ ตามหลักสุขาภิบาลและโรงเผาขยะมูลฝอยชุมชนและผลิตไฟฟ้า 2 ด้วย
พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมตอนหนึ่งว่า ตนเองและคณะมาตรวจเยี่ยมจังหวัดภูเก็ต ตั้งใจที่จะมาดูโรงงานเผาหรือกำจัดขยะของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่า
โรงงานดำเนินงานมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วและเป็นจังหวัดแรกๆ ที่ดำเนินการกำจัดขยะในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างและจะเอาแบบอย่างของจังหวัดภูเก็ตไปดำเนินการในจังหวัดอื่นๆ ด้วย และจากการรับฟังข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า มีปัญหาอยู่บ้าง และคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และ คณะ จะนำผลการดำเนินการไปปรับแก้ในจังหวัดอื่น ที่มีแนวทางจะใช้ระบบโรงงานเตาเผาขยะนี้ต่อไป
ทางด้านนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า การกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ใช้พื้นที่ 291 ไร่ 1 งาน 70 ตารางวา และแบ่งพื้นที่ก่อสร้างระบบกำจัดขยะแบบฝังกลบ 134 ไร่ โรงเตาเผาขยะ 46 ไร่ สร้างโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ 33 ไร่ และพื้นที่แนวฉนวน 78 ไร่โดยปี 2536ก่อสร้างระบบฝังกลบมูลฝอยตามหลักสุขาภิบาล 120 ไร่5 บ่อ ปัจจุบันเต็มพื้นที่แล้วและไม่สามารถฝังกลบขยะเพิ่มเติมได้อีก หรือมีขยะตกค้างอยู่ มากกว่า 1 ล้านตัน
และก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียขยะ 14 ไร่ เป็นลักษณะแบบบ่อผึ่ง และในปี 2538 กรมโยธาธิการและผังเมืองก่อสร้างโรงเผาขยะมูลฝอยชุมชน ขนาด 250 ตันต่อวัน สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุด 2.5 เม็กกะวัตต์ และถ่ายโอนให้แก่เทศบาลมาตั้งแต่ปี 2542 และดำเนินการเผาขยะของจังหวัดภูเก็ต มาเป็นระยะเวลา 15 ปีและโรงเผาขยะมีสภาพชำรุดไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ดีปริมาณขยะในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากกว่า 500 ตันต่อวัน และมีอัตราเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี คาดว่าในปี 2562 จะมีปริมาณขยะเกินกว่า 1,000 ตัน
ต่อวัน
ต่อมาบริษัท พีเจที เทคโนโลยี จำกัดลงทุนก่อสร้างและบริหารโรงเผาขยะมูลฝอย ขนาดไม่น้อยกว่า 300 ตันต่อวัน พร้อมระบบผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 5 เมกะวัตต์ พร้อมระบบบำบัดมลพิษตามมาตรฐานกฎหมาย กำหนดโดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากค่ากำจัดขยะ และค่าจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ที่ใช้พลังงานความร้อนจากขยะมาเป็นเชื้อเพลิง
โดยมีระยะเวลารับสัญญาลงทุนก่อสร้าง และบริหาร 14 ปี และโรงเผาขยะชุมชนได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 20 มีนาคม2555 มูลค่าก่อสร้าง 940,600,000 บาท โดยสร้างเตาเผาขยะชุมชนขนาด 359 ตัน 2 ชุด สามารถเผาขยะชุมชนได้ 700 ตันต่อวัน ในขณะที่ มีขยะเข้าระบบ จำนวน 650 -690 ตันต่อวัน หรือเกือบเต็มประสิทธิภาพ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 7.0 เม็กกะวัตต์และขายให้ กฟภ. 5.5 เม็กกะวัตต์ ปัจจุบันได้ทดสอบระบบ และสามารถเดินระบบได้เต็มประสิทธิภาพ เป็นไปตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว
นางสาวสมใจ กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะมูลฝอยเป็นปัญหาสำคัญที่จังหวัดภูเก็ตต้องประสบ และมีแนวโน้มว่าภายใน 2 ปีนี้หากไม่มีมาตรการอื่นๆ มาสนับสนุนให้เกิดกระบวนการจัดการขยะมูลฝอยในทิศทางเดียวกัน ปริมาณขยะจะเกินขีดความสามารถของเตาเผาใหม่ทั้ง 2 ชุด1และภาคเอกชนลงทุนไปแล้ว ร้อยละ70และเทศบาลนครภูเก็ตควรดำเนินการส่วนที่เหลือ คือ การซ่อมแซมเตาเผาขยะชุดแรก ขนาด 250 ตันต่อวัน ที่เสนอของบประมาณ ในระหว่างปี 2557 – 2560 จำนวน 530 ล้านบาท
ส่วนบ่อฝังกลบตามหลักสุขาภิบาลทั้ง 5 บ่อนั้น บ่อแรกปรับปรุงฟื้นฟูเป็นพื้นที่ฉนวน บ่อที่ 2 – บ่อที่ 4 รื้อเป็นเชื้อเพลิง ใช้งบประมาณรวม137 ล้านบาท ส่วนบ่อที่ 5 ขนาด 200ไร่ ปรับปรุงเป็นระบบฝังกลบแบบชีวภาพ-กล(BMT) งบประมาณ 89 ล้านบาทรวมทั้ง มีโครงการก่อสร้างโรงปุ๋ยขยะอินทรีย์ ขนาด 80 ตัน ใช้งบประมาณ 279 ล้านบาท หรือรวมงบประมาณลงทุนทั้งหมด 1,035 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น