เปิดตัว ส.วัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา สาขาภูเก็ต
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 ที่ห้องใบเรือ โรงแรมโบ๊ทลากูน รีสอร์ท อ.เมือง จ.ภูเก็ต พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ไทย-เมียนมา เป็นประธานในการประชุมสัญจรของสมาคมฯ และเปิดสำนักงาน สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ไทย-เมียนมา สาขาภูเก็ต โดยมีนายประเจียด อักษรธรรมกุล รอง ผวจ.ภูเก็ต นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสุรินทร์ บำรุงผล ประธานสมาคมฯสาขาภูเก็ต
ตลอดจนผู้แทนจากส่วนราชการ องค์กรรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน นักธุรกิจ ร่วมต้อนรับและรับฟังการประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาข้ออุปสรรคต่าง ด้านวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ระหว่างไทย-เมียนมา ในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต โดยมี คณะกรรมการ ที่ปรึกษาสมาคมฯ สมาชิกสมาคม และประธานสมาคมฯ สาขาต่างๆจากหลายจังหวัด ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมประมาณ 100 คน
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา กล่าวว่า สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา จัดตั้งขึ้นสืบเนื่องจากเมียนมากับประเทศไทยมีวัฒนธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณี และเอกลักษณ์ที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะในการนับถือศาสนาพุทธสองประเทศ จึงมีความเหมาะสมที่จะร่วมมือกันได้อย่างดี ทั้งในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการศึกษา เพราะฉะนั้นการจัดตั้งสมาคมฯ จะเป็นการเปิดประตูเป็นทางการที่ประสานวัฒนธรรมนำเพื่อไปสู่เศรษฐกิจ เพื่อการลงทุน เรื่องธุรกิจให้เจริญก้าวหน้าของสองประเทศต่อไป
"ผมมุ่งมั่นให้สมาคมฯ เป็นประตูและช่องทาง ทั้งด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ พร้อมเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ ความเข้าใจ ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ต่างๆ ในเมียนมาได้ เพิ่มกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระหว่างกันใก้มากขึ้น เน้นการมีส่วนร่วมของสาขาสมาคมฯ และเครือข่ายอื่นๆ ของสมาคมฯ เพื่อให้เป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเมียนมากับไทยในลักษณะที่เท่าเทียมกัน และที่สำคัญจะยังคงยึดหลักว่า จะดำเนินการด้วยวิธีที่คู่ขนานไปกับรัฐบาล เป็นการช่วยเหลือรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติของเรา"
พลเอกเชษฐา กล่าวว่า อยากฝากถึงนักธุรกิจไทย ที่ต้องการไปลงทุนในประเทศเมียนมา ขอให้ใช้สมาคมฯ ให้เกิดประโยชน์ เพราะสมาคมฯ พร้อมเป็นสื่อกลางในการประสานงาน ให้เกิดการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของสองประเทศ ในการดำเนินธุรกิจต่างๆ ของนักธุรกิจไทย-เมียนมา ช่วยกลั่นกรองธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน เพราะเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจของสมาคมฯ โดยเฉพาะตามแนวการค้าชายแดน ซึ่งสมาคมฯ มีสาขาอยู่ นอกจากกรรมการและสมาชิกที่มีความรู้เรื่องการค้าตามแนวชายแดนแล้ว สมาคมฯ ยังมีที่ปรึกษา เป็นนักวิชาการที่มีความรู้ในเรื่องการค้าชายแดนมาช่วยเสริมด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น