ทต.ราไวย์ ติวเข้มส่งเสริมคัดแยกขยะรีไซเคิล
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลราไวย์ อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมส่งเสริมการคัดแยกขยะรีไซเคิลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้โครงการสร้างความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศจังหวัดภูเก็ต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยมีวิทยากรจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ชาวไทยใหม่ราไวย์ และชาวบ้านหมู่ 6 ต.ราไวย์ เข้าร่วม
นายอรุณ โสฬส กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองที่มีการขยายตัวเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งการพัฒนาเมืองเพื่อรองรับการเติบโตในด้านสาธารณูปโภค รวมถึงประชากรหลักและประชากรแฝงในรูปแบบของแรงงานหรือนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่แล้ว ผลกระทบสำคัญที่ตามอีกประเด็นหนึ่ง คือ การเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะมูลฝอย
โดยปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีปริมาณขยะมูลฝอยที่เข้าสู่เตาเผาวันละ 740 ตัน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ มากขึ้นทุกปี โดยมีอัตราการเพิ่มอยู่ที่ 7 % ล่าสุดทางจังหวัดภูเก็ตโดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประกาศวาระสงครามขยะ เพื่อเร่งรัดจัดการกับปัญหาขยะมูลฝอย โดยมีภารกิจในการดำเนินงานประกอบด้วย 4 ภารกิจหลัก คือ การรณรงค์รักษาความสะอาด การตัดตกแต่งต้นไม้และวัชพืช การจัดระเบียบป้ายประกาศและป้ายโฆษณา และการจัดระเบียบสายไฟให้สะอาด สวยงามและไม่อุจาดตา
โดยภารกิจการตัดตกแต่งต้นไม้และวัชพืช การจัดระเบียบป้ายประกาศและป้ายโฆษณาและการจัดระเบียบสายไฟนั้น หน่วยงานราชการต้องเป็นแม่งานหลักในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว แต่ในส่วนของการรณรงค์รักษาความสะอาด เป็นกิจกรรมที่สามารถร่วมด้วยช่วยกันทุกภาคส่วน เริ่มต้นได้ตั้งแต่การคัดแยกขยะที่ต้นทางจากประชาชน ครัวเรือน โรงเรียน ชุมชน สถานที่ทำการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ดังนั้นการฝึกอบรมส่งเสริมการคัดแยกขยะรีไซเคิลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงเป็นการจัดกิจกรรมที่สามารถรองรับต่อภารกิจการณรงค์รักษาความสะอาดได้อย่างดียิ่ง และผู้เข้ารับการอบรมจะได้เก็บเกี่ยวความรู้และมีความเข้าใจการใช้หลัก 3Rs เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง อีกทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ยังได้มีการจัดหาตะแกรงคัดแยกขยะรีไซเคิลเพื่อให้ทางเทศบาลตำบลราไวย์ไปติดตั้งในพื้นที่ด้วย
จึงถือว่าเป็นความร่วมมือสำคัญอีกประการหนึ่ง อันเป็นประโยชน์ต่อตำบลราไวย์และจังหวัดภูเก็ต รวมถึงลดปริมาณขยะที่เข้าสู่เตาเผาขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต เพิ่มมูลค่าขยะ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน เป็นการจัดการขยะอย่างยั่งยืนและนำไปสู่ความเป็นภูเก็ตเมืองสะอาดตลอดไป นายอรุณกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น