ขนย้ายต้นกัลปังหาที่ขยายพันธุ์ได้ไปปลูกในกองปะการังเทียม
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2560 ที่ท่าเทียบเรือศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต (ทสจ.ภูเก็ต) เป็นประธานเปิดโครงการย้ายปลูกกัลปังหาโดยการมีส่วนร่วม ซึ่งสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) จัดขึ้น
เพื่อนำกัลปังหาที่เพาะขยายพันธุ์ไว้ลงไปปลูกยังบริเวณทะเลพื้นที่เกาะไม้ท่อน โดยมีนายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 3 ผู้แทนจากสำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (สงขลา) อาสาสมัครนักดำน้ำทั้งภาครัฐและเอกชนประมาณ 30 คน ครูและนักเรียนจากโรงเรียนบ้านแหลมพันวา และโรงเรียน อบจ.บ้านนาบอน จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมกิจกรรม
ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ เจ้าหน้าที่ สบทช.6 พร้อมด้วยอาสาสมัครนักดำน้ำจำนวน 30 คน ได้ช่วยกันขนต้นกัลปังหาจำนวนประมาณ 250 ต้น ที่ได้จัดเตรียมไว้พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ และอื่นๆ ลงเรือ 3 ลำ เดินทางไปยังเกาะไม้ท่อน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 9 กิโลเมตร เพื่อนำต้นกัลปังหาไปทำการปลูกในทะเลบริเวณเกาะไม้ท่อนดังกล่าว โดยใช้วิธีนำต้นกัลปังหาไปผูกยึดติดกับแท่งปะการังเทียม
เพื่อให้เจริญเติบโตเกาะติดกับแท่งปะการังเทียม และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล ซึ่งต้นกัลปังหาที่นำไปปลูกนั้นมีอายุประมาณ 1 ปี โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำกิ่งพันธุ์มาจากหลายพื้นที่ทั้งบริเวณท่าเรือต่างๆ และโป๊ะที่มีการรื้อก่อสร้างใหม่ในจังหวัด ด้วยการนำมาทำการเพาะขยายพันธุ์ไว้บริเวณหน้าท่าเทียบเรือ และทำการดูแลจนพร้อมสำหรับนำไปเพาะปลูกในทะเล
นายสุชาติ รัตนเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สบทช.6 กล่าวว่า สถานการณ์ของกัลปังหาในปัจจุบัน พบว่ามีกัลปังหาตามธรรมชาติมีจำนวนลดน้อยลง เนื่องจากหลายปัจจัยเช่น ผลกระทบจากเรืออวนลาก อวนรุน และที่สำคัญพบว่า ยังคงมีการลักลอบตัดเพื่อนำไปจำหน่ายในลักษณะต่างๆ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีราคาสูง ตั้งแต่หลักร้อยบาทถึงหลักหมื่นบาท
โดยนิยมเอาไปทำเป็นเครื่องประดับ เครื่องรางและยาตามความเชื่อโบราณ ทั้งที่ทราบว่ากัลปังหาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งที่ผ่านมา สบทช.6 เคยมีการจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบซึ่งจะเป็นหรือใช้เป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้จักการหลบหลีกการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ในการลักลอบตัดมาเก็บพักไว้ตามออเดอร์ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายในช่วงเวลากลางคืนจึงยากที่จะตรวจสอบจับกุมได้ จึงอยากฝากไปยังประชาชนหากพบเห็นการลักลอบขนกัลปังหาก็ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น