เด็กดีต้องชื่นชม.. หนูน้อยวัย 9 ขวบ “นูลิต้า”
พบกระเป๋ามีเงินแสน ทองหนัก 6 บาท ส่งคืนเจ้าของ
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 ไลน์กลุ่มแจ้งข่าวภูเก็ต มีผู้ใช้ชื่อไลน์ว่า muza ได้โพสต์คลิปภาพเงินสดและทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนหน้าชายหาดกมลา ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กับคลิปภาพขณะที่เจ้าของเงินและทองรูปพรรณกำลังรับมอบทรัพย์สินคืน โดยผู้โพสต์ได้ชี้แจงว่า นางหนูคล้าย สังห์แก้ว อายุ 55ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 5 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้ไปเบิกเงินที่ธนาคารเป็นเงิน 130,000 บาท เพื่อนำเงินไปรักษาสามีที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล
โดยได้ขี่มอเตอร์ไซค์สามล้อสกายแล็ปกลับบ้าน และวางกระเป๋าใส่เงินสดกับทองรูปพรรณไว้หน้ารถ โดยแวะไปหาญาติซึ่งขายของอยู่บริเวณชายหาดหน้า สภ.กมลา และระหว่างนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงไม่รู้ว่ากระเป๋าใส่เงินและทองรูปพรรณหล่นหาย กระทั่งฝนหยุดตก ด.ญ ปิยะรัตน์ บุตรเเขก หรือนูลิต้า อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล(ตันติวิท) ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ได้เก็บกระเป๋าดังกล่าวได้ และนำมาให้กับแม่ซึ่งขายของอยู่หน้าชายหาด เพื่อหาเจ้าของ
ด้านเจ้าของกระเป๋าเมื่อกลับถึงบ้านไม่พบกระเป๋าที่วางไว้หน้ารถก็ได้บอกกับญาติและเป็นลมพับไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาและขับรถออกไปตามหากระเป๋า แต่ไม่เจอ กระทั่งมีแม่ค้าบริเวณนั้นเห็นโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าและเห็นภาพหน้าจอจึงโทรศัพท์ไปบอกให้มารับกระเป๋าคืน โดยไม่มีใครรู้ว่าในกระเป๋ามีอะไรบ้าง กระทั่งเจ้าของมารับกระเป๋าคืน และตรวจสอบภายใน พบว่ามีเงินสด 130,000 บาท และทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 6 บาท ซึ่งทุกอย่างอยู่ครบ และมอบเงินเป็นสินน้ำใจ กับน้องนูลิต้า จำนวน 2,000 บาท
ด้านนายพนมศักดิ์ อัยราชธนารักษ์ อายุ 60 ปี อาชีพขายของหน้าหาด และผู้สื่อข่าวเศษของเคเบิ้ลกมลาดิจิดัล ผู้ชื่อไลน์ว่า muza ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอ เล่าว่า ขณะที่ขายของอยู่หน้าชายหาดใกล้กับร้านค้าแม่น้องนูลิต้า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกมาอย่างหนัก และเมื่อฝนหยุดตกน้องนูลิต้าได้นำกระเป๋าดังกล่าวมาให้กับแม่ โดยบอกว่าเจอตกอยู่ข้างถนน ไม่รู้ว่าเป็นของใคร คิดว่าน่าจะเป็นของลูกนักท่องเที่ยว เพราะมีลักษณะคล้ายกระเป๋าเด็กเล่นมากกว่ากระเป๋าใส่ของมีค่า จากนั้นเด็กก็ไปเล่นสนุกตามประสา ระหว่างนั้นตนสังเกตเห็นเจ้าของกระเป๋าขับรถวนเวียนอยู่ 2 รอบ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าของกระเป๋า
กระทั่งเพื่อนแม่ค้าอีกรายมาเห็นกระเป๋าและเห็นมีโทรศัพท์อยู่ด้วย จึงเปิดดูโทรศัพท์เห็นภาพของนางหนูคล้าย สังห์แก้ว จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบว่า พบกระเป๋าตกอยู่ให้มารับด้วย แต่ไม่ได้สำรวจสิ่งของในกระเป๋าและไม่รู้ด้วยว่าข้างในมีเงินสดและทองรูปพรรณ
เมื่อเจ้าของกระเป๋ามาถึงและเปิดสำรวจสิ่งของภายในเห็นเงินสดจำนวน 130,000 บาท และทองรูปพรรณทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 6 บาท อยู่ครบก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจและพูดอะไรไม่ออก จากนั้นได้กล่าวขอบคุณและมอบเงินให้กับน้องนูลิต้า จำนวน 2,000 บาท ตอนแรกเด็กไม่ยอมรับเงินดังกล่าว เพราะแม่สอนว่า สิ่งของที่เราเจอนั้นไม่ใช่ของของเราต้องส่งคืนเจ้าของ ต้องคะยั้นคะยออยู่นานจึงยอมรับเงินดังกล่าวนั้นไว้ นายพนมศักดิ์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น