แท็กซี่ภูเก็ตน้ำใจงามนำกระเป๋าทรัพย์สินคืนนทท.
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 (ภูเก็ต) กองบังคับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายรูท อเล็กซานเดอร์ (Roth Alexander) อายุ 29 ปี สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ รับมอบกระเป๋าเดินทางจากนายจักรพันธ์ เฉลิมวัย คนขับแท็กซี่ หลังลืมทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ขณะใช้บริการจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต มายังโรงแรมที่พักในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
หลังได้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ผ่านทางสายด่วน 1155 เพื่อขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวช่วยประสานจนได้รับทรัพย์สินทั้งหมดคืน โดยมี พ.ต.อ.ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว, พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ร่วมเป็นสักขีพยาน
หลังได้รับกระเป๋าคืนนายรูท อเล็กซานเดอร์ ได้ตรวจสอบทรัพย์สินภาย ซึ่งมีเงินสด ทั้งเงินไทยและสกุลอื่นๆ หนังสือเดินทาง, กล้องถ่ายรูป และทรัพย์สินอื่นๆ พบว่าทุกอย่างอยู่ครบ และกล่าวว่ารู้สึกดีใจ พร้อมกล่าวขอโทษที่ลืมกระเป๋าทิ้งไว้จนทำให้นายจักรพันธ์ คนขับรถแท็กซี่ต้องเสียเวลาและขอบคุณที่นำกลับมาคืนให้
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 4 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา โดยนายรูท อเล็กซานเดอร์ ได้เรียกใช้บริการแท็กซี่ทะเบียน 30-7281 ภูเก็ต ที่มีนายจักรพันธ์ เฉลิมวัย เป็นคนขับ จากสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพื่อไปส่งยังบริเวณโรงแรมเดอะบลิส ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยขณะนั่งในรถนายรูท อเล็กซานเดอร์ ได้วางกระเป๋าสะพายดังกล่าวไว้ที่เท้า
เมื่อถึงจุดหมายจึงจ่ายค่าโดยสาร แล้วลงจากรถไปโดยลืมหยิบกระเป๋า ขณะที่คนขับก็ออกรถไปโดยไม่ทราบว่า มีกระเป๋าของนักท่องเที่ยวติดไปด้วย และนายรูท อเล็กซานเดอร์ ก็จำทะเบียนรถแท็กซี่ไม่ได้ จึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวทางสายด่วนดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้ทำการตรวจสอบจนทราบว่า รถแท็กซี่คันดังกล่าวมีนายจักรพันธ์ เฉลิมวัย เป็นคนขับ จึงได้แจ้งให้ตรวจสอบภายในรถแท็กซี่ และพบว่านักท่องเที่ยวได้ลืมกระเป๋าไว้ในรถจริง จึงได้นำมามอบไว้ที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต
พ.ต.ท.นฤวัต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นความโชคดีของนักท่องเที่ยวรายนี้ที่ได้ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ซึ่งถือว่าเป็นพลเมืองดี จึงได้สิ่งของคืน และขอชื่นชมนายจักรพันธ์ ที่นำกระเป๋ามาคืน ซึ่งเหตุการณ์นี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุรู้สึกประทับใจและเดินทางกลับมาท่องเที่ยวภูเก็ตอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น