พ่อเมืองภูเก็ตตรวจสอบสภาพบ้านพักธนารักษ์
ตั้งคณะทำงานปรับปรุงเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักอดีตผู้จัดการ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
ซึ่งตั้งอยู่ภายในที่ราชพัสดุ แปลงถนนดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต บนเนื้อที่ 6 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ในความดูแลของธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต เพื่อปรับปรุงให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ภายใต้โครงการภูเก็ตสวยด้วยมือและใจเรา หลังจากที่ได้มีการตัดแต่งต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมบ้านหลังดังกล่าวจนเผยให้เห็นความสวยงาม และมีเสียงสะท้อนให้นำบ้านหลังดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม
นายนรภัทร กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการปรับพื้นที่บริเวณโดยรอบบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 6 ไร่เศษ และเผยให้เห็นความสวยงามของตัวบ้าน ซึ่งเป็นบ้านพักของอดีตผู้จัดการธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สาขาภูเก็ต ที่เกิดมาพร้อมกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด มีอายุกว่า 60 ปี และเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารเมืองภูเก็ตในขณะนั้น คือ พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) ที่ดึงเอาธนาคารต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาในภูเก็ต และยังทำให้เห็นถึงความรุ่งเรืองทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของภูเก็ตในสมัยนั้นด้วย
“จากการหารือกับทางโยธาฯ เทศบาลนครภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาบ้านพร้อมที่ดินแปลงนี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ตัวบ้าน มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำความสะอาดก่อน จากนั้นให้ทางโยธาฯ เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างของตัวบ้าน โดยจะมีการซ่อมแซมในส่วนที่อาจจะผุผังหรือเสื่อมโทรม เพื่อให้เกิดความสวยงาม และส่วนที่ 2 คือ ภูมิสถาปัตย์และสิ่งแวดล้อมโดยล้อมตัวบ้าน ทั้งในส่วนของทางเดิน รั้ว หรือไม้ประดับต่างๆ รวมทั้งหารือกับผู้รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา เพื่อจะได้วางแนวทางว่าจะปรับปรุงบ้านหลังนี้เป็นอะไร เช่น พิพิธภัณฑ์ ศูนย์เรียนรู้ หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสม”
นายนรภัทร กล่าวด้วยว่า สำหรับบ้านในสไตล์ดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านทรงยุโรปเก่าแก่ที่อยู่คู่กับภูเก็ตมานาน และเป็นบ้านที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานภาครัฐซึ่งหาดูได้ยาก เพราะที่มีอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของเอกชนหรือคหบดีซึ่งจะไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมหรือสัมผัสอย่างใกล้ชิด จึงต้องการรักษาบ้านหลังนี้ไว้ให้เป็นสมบัติของคนภูเก็ตอย่างแท้จริง และเมื่อปรับปรุงแล้วบ้านหลังนี้ก็จะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของภูเก็ต รวมทั้งยังจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเจริญเติบโตของภูเก็ตในอดีตได้เป็นอย่างดี หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อศึกษาหาข้อมูลและดำเนินการปรับปรุงบ้านหลังนี้ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น