เปิดตัวสมาร์ทบัสคันแรกประเดิมสนามบิน-เมืองภูเก็ต
ภายหลังการเปิดตัวของบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด หรือ PKCD ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มนักธุรกิจชาวภูเก็ต ที่ต้องการร่วมมือกันพัฒนาเมืองภูเก็ตไปข้างหน้า เพื่อให้เป็นเมืองที่มีการเติบโตอย่างชาญฉลาดหรือ Smart Growth ด้วยการลงทุนพัฒนาใน 12 ธุรกิจหลัก และหนึ่งในโครงการดังกล่าว คือ โครงการสมาร์ทบัส เพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และเหมาะสมกับเมืองในอนาคต
นายวัชร จารุอริยานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด หรือ PKCD เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการจัดทำโครงการภูเก็ต สมาร์ท บัส (Phuket Smart Bus) ซึ่งอยู่ในความดูแลของบริษัท ภูเก็ต สมาร์ท บัส จำกัด หรือ PKSB ซึ่งเป็นหนึ่งบริษัทในเครือของบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด ว่า ทางบริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัท ล๊อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ต่อรถบัสโดยสารขึ้นใหม่จำนวน 10 คัน เป็นรถขนาด 24 ที่นั่งยาวประมาณ 9.50 เมตร สูง 2 เมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท
ภายในตัวรถจะมีที่เก็บกระเป๋าและสัมภาระบนตัวรถ มีบริการอินเตอร์เน็ตฟรี wifi ซีซีทีวี โทรทัศน์ การเก็บค่าโดยสารผ่านบัตรที่ลิงค์กับภูเก็ตสมาร์ทการ์ดของ PKCD และจะมีการจัดทำแอพลิเคชั่นขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้รายละเอียดของการให้บริการ เช่น ระยะการถึงจุดจอดรับ-ส่งแต่ละจุด เป็นต้น รองรับทั้งคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยว และที่แตกต่างจากรถบัสทั่วไป คือ มีพื้นที่และลิฟท์สำหรับรถวิลแชร์อยู่ภายในตัวรถด้านหลังอมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตามความเหมาะสม
นายวัชร กล่าวต่อด้วยว่า ในส่วนของเส้นทางในการให้บริการนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นการวิ่งในเส้นทางเดิมระหว่างสนามบินภูเก็ต – ตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งมีผู้รับสัมปทานอยู่แล้ว โดยอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ ผู้บริหารบริษัท ภูเก็ตมหานคร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานเส้นทาง กับในส่วนของการขอสัมปทานเส้นทางใหม่ซึ่งจะไม่ทับกับเส้นทางสัมปทานที่มีอยู่เดิมกับทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต คือ เส้นทางสนามบินภูเก็ต-เลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกบ้านเคียน – บ้านดอน – ลากูน่า – เชิงทะเล – หาดสุรินทร์ – กมลา – ป่าตอง – กะรน – กะตะ – ราไวย์ ระยะทางประมาณ 50 – 60 กิโลเมตร
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื่องจากจะมีการจอดตามจุดต่างๆ ส่วนค่าโดยสารคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 50 – 150 บาทขึ้นอยู่กับระยะทาง ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์การให้บริการสำหรับคนภูเก็ตด้วย นอกเหนือจากการให้บริการนักท่องเที่ยว และหากสามารถเกิดขึ้นได้จริงเมื่อมีการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถสาธารณะแล้ว จะมีการจัดทำแอพลิเคชั่นซึ่งจะทำให้ทราบช่วงเวลาในการวิ่งมาถึงจุดรับส่งแต่ละจุด อนาคตก็จะมีสมาร์ทสเตชั่น หรือจุดจอดอัจฉริยะที่จะบอกให้ทราบว่ารถคันถัดไปจะมาถึงเวลาใด ซึ่งจะเป็นการเปิดการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่อีกส่วนหนึ่งด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น