จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

น้ำต้นทุนมหาศาลขาดบริหารจัดการ


ภูเก็ต ในอดีตกว่า 20 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ ด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าไม้บนภูเขาน้อยใหญ่ประกอบกับมีทะเลล้อมรอบ จนถูกขนานนามให้เป็นเมือง ฝน 8 แดด 4 และปริมาณน้ำฝนนั้นก็มีจำนวนมหาศาล แต่ปัจจุบันผลของการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวอย่างไร้ทิศทาง และขาดการวางแผนในการรับมือ รวมไปถึงการบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำ เพื่อก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท อาคารในเชิงธุรกิจและการท่องเที่ยวทำให้อุณหภูมิอากาศในพื้นที่ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล ก่อให้เกิดปัญหาน้ำในด้านอุปโภคบริโภค แม้จะมีการสำรวจพบว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมานั้นมีเป็นจำนวนมาก และใหญ่จะไหลลงสู่ทะเลอย่างไร้ประโยชน์ ด้วยขาดการบริหารจัดการที่ดี ทำให้เมื่อถึงช่วงหน้าแล้งภูเก็ตจึงมีปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในระยะ 4 – 5 ปีที่ผ่านมาจะต้องแก้ปัญหาด้วยการขอทำฝนหลวง รวมทั้งความพยายามจัดหา


นายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต กล่าวว่า ในภาพรวมปัญหาเรื่องของภูเก็ตจะมีปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาหลัก ซึ่งในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าความต้องการน้ำกับปริมาณน้ำที่มีอยู่จะเกิดปัญหา ในส่วนของชลประทานภูเก็ตก็ได้มีความพยายามในการหาแหล่งกักเก็บน้ำเพิ่มให้ได้มากที่สุด โดยแหล่งเก็บกักน้ำที่มีอยู่ปัจจุบันประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำบางวาด อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ และอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการแต่ยังติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเนื่องจากยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ให้พื้นที่ป่าจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้มีความพยายามในการหาขุมน้ำซึ่งเป็นขุมเหมืองเดิมเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงการเติมน้ำระหว่างกัน
ขณะที่ นายอิสระ อนุกูล นายช่างชลประทาน ระดับอาวุโส หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ โครงการชลประทานภูเก็ต กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำของภูเก็ตว่า สถานการณ์น้ำของภูเก็ตในปีนี้ถือว่ามีน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คาดว่าในช่วงหน้าแล้ง 4 เดือนนับจากกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนเมษายนนี้ที่จะมีปริมาณน้ำเพียงพอ โดยขณะนี้อ่างเก็บน้ำบางวาดมีปริมาณน้ำ 5.8 ล้านลบ.ม.หรือคิดเป็น 79.0 % ของความจุอ่างฯ ความจุเต็มที่ 7.2 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งจะจ่ายน้ำให้กับการประปาส่วนภูมิภาคกับการประปาเทศบาลนครภูเก็ต จากที่ได้ประมาณการณ์ในช่วงหน้าแล้งอัตราความต้องการน้ำของทั้งสองส่วนจะเฉลี่ยประมาณ 1.3-1.5 ล้าน ลบ.ม. เมื่อพิจารณาปริมาณน้ำที่มีอยู่จะเห็นว่าเพียงพอกับความต้องการดังกล่าว เพราะตามสถิติที่ผ่านมาเมื่อถึงเดือนพฤษภาคมก็จะมีฝนตกแล้ว ส่วนของอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำซึ่งมีความจุ 7.2 ล้านลบ.ม.ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเต็มความจุอ่าง 100 % หากรวมทั้ง 2 อ่าง จะมีความจุประมาณ 14.5 ล้าน ลบ.ม.และมีปริมาณน้ำ 13.0 ล้าน ลบ.ม.


“จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาน้ำในปัจจุบันพบว่า มีแหล่งเก็บกักน้ำน้อยเกินไป โดยที่เป็นของรัฐและสามารถใช้ได้อย่างถาวรมีเพียง 16 ล้านลบ.ม.ปริมาณน้ำที่นำมาใช้ได้ประมาณ 35 ล้าน ลบ.ม./ปี ทำให้ในช่วงแล้ง ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ การแก้ปัญหาทางกรมชลประทานมีแผนพัฒนาแหล่งน้ำหรือจัดหาน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้มีปริมาณแหล่งเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นอีก 11 ล้าน ลบ.ม.เป็น 27 ล้าน ลบ.ม.และมีปริมาณน้ำที่ใช้ได้เพิ่มขึ้นอีก18 ล้าน ลบ.ม.เป็น 53 ล้าน ลบ.ม./ปี โดยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ อ่างเก็บน้ำอ่าวยนต์ปรับปรุงเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำบางวาด ก่อสร้างระบบสูบผันน้ำเติมอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ”

รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ใน หนังสือพิมพ์ ภูเก็ตโพสต์
ฉบับที่ 119 ประจำวันที่ 16 - 28 กุมภาพันธ์ 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น