พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้กล่าวภายหลังเป็นประธานปิดการอบรมหลักสูตร การข่าวเพื่อความมั่นคง ซึ่งทางงานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรกะทู้ จัดขึ้นให้กับผู้ประกอบการรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง (ตุ๊กตุ๊ก) รถรับจ้างผู้ประกอบการรถเช่า อาสาสมัครตำรวจบ้าน สมาชิก อป.พร.พนักงานรักษาความปลอดภัยและกลุ่มมวลชนอื่นๆ ในพื้นที่ป่าตอง เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม นปช.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ที่กรุงเทพมหานคร ว่า สำหรับในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดทำการฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมของกองร้อยควบคุมฝูงชนจังหวัดละ 2 กองร้อย เพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์ความผิดปกติขึ้น แต่จากการติดตามทางด้านการข่าวไม่พบการรวมตัวชุมนุมในพื้นที่แต่อย่างใด แม้จะมีการเคลื่อนไหวบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก
“กรณีของรอยต่อในการเดินทางไปรวมตัวกันที่ส่วนกลางนั้นได้เน้นให้มีการตรวจสอบในเรื่องของการพกพาอาวุธเป็นหลัก รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทำผิดกฎหมาย ส่วนกรณีการเดินทางปกติของผู้ที่จะไปรวมตัวกับมวลชนที่กรุงเทพมหานครนั้นเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย ไม่ได้มีการสกัดกั้นแต่อย่างใด ยกเว้นว่าหากมีการพกพาอาวุธ ก็ต้องมีการดำเนินกันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย”
พล.ต.ท.พิทักษ์ กล่าวด้วยว่า จากการติดตามทางด้านการข่าวภาพรวมของพื้นที่รับผิดชอบภาคใต้ตอนบนไม่มีสิ่งบอกเหตุอะไรที่ผิดปกติ เพราะในส่วนของแกนนำชุมนุมต่างออกมายืนยันว่าจะมีการรวมตัวกันและเรียกร้องอย่างสันติ ไม่มีอาวุธหรือความรุนแรงแต่อย่างใด ซึ่งก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต พังงา กระบี่ สมุย
ขณะที่ พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ กล่าวว่า จากการติดตามในพื้นที่ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ได้ประมาท หากมีการชุมนุมเกิดขึ้นในพื้นที่ด้วยก็ได้เตรียมความพร้อมสำหรับอพยพนักท่องเที่ยวไปยังจุดปลอดภัย แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักสำคัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น