เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 มีนาคม 2553 ที่ห้องจามจุรี 2 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดถนนใต้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยมีนายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร/ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนที่มีส่วนได้เสียเข้าร่วม
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหน่วยงานหลักรับผิดชอบด้านการคมนาคม ซึ่งปัจจุบันโครงข่ายสายหลักในการเดินทางเชื่อมโยงจากพื้นที่ภายนอกเข้าสู่ตัวจังหวัดภูเก็ตมีเพียงทางหลวงหมายเลข 402 มีปัญหาการจราจรที่ติดขัดและมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาดังกล่าวมากขึ้น แม้ว่าจะได้มีการปรับปรุงและขยายช่องจราจรอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม ดังนั้นจังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดในการที่จะสร้างโครงข่ายทางหลวงเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาการจราจรหลักที่ใช้ทางหมายเลข 402 เดิมประกอบกับมีแนวสายส่งศักย์สูงที่ทอดตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ขนานกับทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งได้มีการลิดรอนสิทธิการใช้ที่ดินตามแนวสายส่งดังกล่าว จะทำให้ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในการที่จะถูกเวนคืนที่ดินและเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่คุ้มค่า อีกทั้งสามารถดำเนินโครงการได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นโดยตรง จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท ทรานส์คอนซัลท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษา สำรวจ และออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างที่เหมาะสมในการก่อสร้างถนนตามแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ระยะทางประมาณ 19.34 กิโลเมตร โดยมีจุดเริมต้นที่บริเวณจุดตัดแนวสายส่งกับถนนหลวงหมายเลข 402 ห่างจากทางแยกจุดตัดทางหลวง 4026 กับทางหลวงหมายเลข 402 ไปทางทิศเหนือ 600 เมตร และจุดสิ้นสุดจะห่างจากจุดตัดทางหลวง 402 เดิม มาทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 200 เมตร
“ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับการศึกษา และบริษัทที่ปรึกษา ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นมาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ครั้ง และได้ดำเนินงานมาถึงขั้นสุดท้าย โดยได้ข้อสรุปรายละเอียดรูปแบบและองค์ประกอบถนนทั้งหมด พร้อมแนวทางแก้ไขผลกระทบ ซึ่งผลการประชุมสัมมนาในครั้งที่ผ่านมาพบว่า 90% เห็นด้วยกับการดำเนินโครงการเพิ่มโครงข่าย โดยเห็นควรออกแบบและจัดทำเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร อีกทั้งขอให้มีการเชื่อมทางเข้า-ออกแต่ละทางแยกด้วย ขอให้มีการจ่ายค่าชดเชยอย่างเป็นธรรม รวมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์ที่ต่อเนื่อง”
นายวิชัย กล่าวด้วยว่า จากการลงไปพูดคุยกับเจ้าของที่ดินซึ่งถูกรอนสิทธิ ส่วนใหญ่ก็จะมีการยกที่ดินให้แล้ว เนื่องจากมองว่าหากมีการตัดถนนเข้าไปก็จะเป็นประโยชน์ทั้งกับส่วนรวมและส่วนตัว แต่ยังมีเหลือเพียงบางส่วนซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา หากทุกรายยินยอมก็จะสามารถที่จะดำเนินการในการก่อสร้างได้ต่อไป เพราะจากการฟังความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น