เมื่อเวลา 10.00 น.ของวัยที่ 16 เมษายน 53 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมือง ภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รองผบก.ภ.จส.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมือง ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายเสถียร เรืองจินดา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 313 ถ.ระนอง อ.เมือง ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางจำนวน 15 รายการ ในข้อหา บุกรุกเคหสถานโดยมีอาวุธ ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้ายและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้พล.ต.ต.พิกัด ได้กล่าวว่า ด้วยเมื่อวันที่ 13 เมษายน 53 ที่ผ่านมา ได้มีนางไพ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ขับขี่รถ จยย.กลับจากเที่ยวสงกรานต์ที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ เพื่อกลับห้องพักภายในซอยหล่อโรง ถ.พัฒนา อ.เมือง จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถ จยย.คันดังกล่าวติดตามมาถึงหน้าห้องพักแล้วใช้กรรไกรปลายแหลมบุกจี้บังคับเหยื่อพร้อมกับผลักเหยื่อเข้าไปในห้อง แล้วได้ปลดทรัพย์สินของเหยื่อพร้อมกับใช้กรรไกรจี้บังคับให้เหยื่อขึ้นรถ จยย.ของคนร้ายและพาไปในป่าบริเวณสุสานเขารัง ถ.แม่หลวน อ .เมือง พร้อมกับบังคับให้เหยื่อถอดกางเกงและเริ่มลงมือข่มขืน แต่ขณะกำลังที่คนร้ายกำลังจะข่มขืน ปรากฏว่ามีคนผ่านมาพบพร้อมกับตะโกนสอบถามผู้ต้อง ทำให้เหยื่อฉวยโอกาสวิ่งหนีออกจากป่าและเข้าขอแจ้งความกับตำรวจ จากนั้นชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้ออกติดตามจนกระทั่งทราบว่า คนร้ายรายนี้ชื่อนายเสถียร ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายและหลักฐานเสนอต่อศาลออกหมาจับนายเสถียร จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายเสถียร พร้อมด้วยรถจยย.ยามาฮ่าฟิโน่สีม่วง ทะเบียน ขกว 488 ภูเก็ต จากนั้นก็ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนนายเสถียร ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ตั้งแต่เดือน มี.ค. – เม.ย.53จำนวน 11 ครั้ง และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ในคดีวิ่งราวทรัพย์ นอกจากนี้ผู้เสียหายยังได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุใช้อาวุธดังกล่าวแทงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บในพื้นที่สภ.ฉลอง ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ได้ลักมาจากซอยหมู่บ้านล๊อดปาล์ม เขตพื้นที่รับผิดชอบสภ.ทุ่งทอง จากนั้นก็ได้นำมาเปลี่ยนแปลงหมายเลขทะเบียนเพื่ออำพรางคดี ในการใช้ก่อเหตุ
“ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมเป็นอย่างมาก โดยแต่ละวันไม่ได้ทำงานอะไรเป็นหลักแหล่ง ซึ่งเคยถูกจับกุมในข้อชิงทรัพย์และถูกจำคุกกว่า 2 ปี โดยเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน จากนั้นได้ออกก่อเหตุใช้รถ จยย.ตระเวนหาเหยื่อหญิงสาว เพื่อมีจุดประสงค์ต้องการข่มขืนและกระทำชำเราเป็นหลัก ส่วนทำทรัพย์สินเป็นเพียงเรื่องรอง ซึ่งคาดว่าคงมีเหยื่อที่เป็นหญิงสาวอีกหลายรายที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ เนื่องจากอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยบางรายอาจถูกข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แต่บางรายอาจถูกพยายามจะข่มขืนหรือแค่กระทำอนาจาร บางรายอาจถูกชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากไม่สบโอกาส จึงขอวอนให้หญิงสาวที่ใช้รถ จยย.ระวังภัยใกล้ตัวในลักษณะดังกล่าวไว้ด้วย” ผบก.ภ.จ.ภูเก็ตกล่าวย้ำเตือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น