เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 22 เมษายน 2553 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต พร้อมด้วยนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนิวเดลี นำคณะกรรมการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวแห่งอินเดีย เข้าพบนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมฯ ในประเทศไทย
นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางสมาคมฯ สนใจเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ในการจัดประชุม โดยได้ให้ความสนใจกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต แต่จากการพูดคุยคาดว่า ภูเก็ตเป็นสถานที่ซึ่งจะมีโอกาสได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ในการจัดการประชุมสูง เนื่องจากขณะนี้ในส่วนของกรุงเทพฯ มีปัญหาเรื่องของการชุมนุม ซึ่งก็ได้ยืนยันถึงความพร้อมของภูเก็ต ทั้งความสะดวกในการเดินทาง สถานที่จัดการประชุม ที่พัก การให้บริการ สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย
ทางด้านนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนิวเดลี กล่าวว่า ทางคณะกรรมการสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวแห่งอินเดียต้องการมาดูสถานที่สำหรับจัดประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคมปีนี้ และจังหวัดภูเก็ตเป็นตัวเลือกหนึ่งในประเทศไทย แต่หากไม่เลือกจังหวัดภูเก็ตก็อาจจะเลือกไปที่พัทยา หรือกรุงเทพมหานคร แต่อย่างไรก็ดีทราบว่าทางสมาคมฯมีความชื่นชอบและพอใจจังหวัดภูเก็ตมาก และคิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
“หากเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดประชุม สิ่งที่จังหวัดภูเก็ตได้รับในขั้นต้นระหว่างการประชุม ซึ่งจะมีผู้มาร่วมประชุมประมาณ 2,000 คน จะสร้างรายได้ทันที นอกจากนี้หลังเสร็จสิ้นการประชุมก็จะเกิดรายได้ทั้งค่าที่พัก อาหารการกิน และแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากผู้ที่มาประชุมเป็นบริษัทนำเที่ยว ซึ่งสามารถนำภูเก็ตไปเสนอขายต่อให้กับลูกค้าของเขาได้ เพราะเขาได้มาเห็นของจริงแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือภูเก็ตน่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น” นายฉัททันต์กล่าว
ขณะที่นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า จากการพูดคุยทางประธานสมาคมฯ แม้ว่าจะให้ความสนใจภูเก็ต แต่ก็ยังมีคู่แข่งซึ่งมีทั้งฟิลิปปินส์ และตุรกี แต่ก็ได้ให้ข้อมูลความพร้อมต่างๆ ทั้งการดูแลรักษาความปลอดภัย การให้บริการ โรงแรมที่พัก สถานที่จัดประชุม และแหล่งท่องเที่ยวซึ่งตรงกับความต้องการของคนอินเดีย พร้อมทั้งได้เสนอด้วยว่าก่อนถึงวันประชุมจะมีการจัดฟรีทัวร์ 2 วัน 1 คืน ให้กับกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมพร้อมกับครอบครัวในพื้นที่ภูเก็ต พังงา และกระบี่ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของทัวร์ดำน้ำ เล่นกอล์ฟสปา ไปช้อปปิ้ง และรับประทานอาหาร ซึ่งหากมีการเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดประชุมก็จะทำให้เกิดรายได้ในช่วงดังกล่าวประมาณ 400 – 500 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น