นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการลงทุนในภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต ว่า ยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีนักธุรกิจรายใหญ่จากประเทศฮ่องกงได้เข้าพบแจ้งความประสงค์สนใจที่จะเข้าลงทุนด้านซอร์ฟแวร์ และจะเชิญนักลงทุนด้านธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สิ่งอำนวยความสะดวกหรือกิจกรรมเกี่ยวกับการพักผ่อนต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนด้วย โดยให้ความสนใจพื้นที่แถบกมลา อ.กะทู้ และขณะนี้ก็ได้มาซื้อบ้านพักไว้แล้ว เนื่องจากมีความชื่นชอบจังหวัดภูเก็ตเป็นการส่วนตัวโดยเฉพาะภรรยา ทั้งนี้เขาต้องการทราบว่าในส่วนของเราจะสามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องใดได้บ้าง
“ส่วนของจังหวัดนั้นพร้อมที่จะรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับพื้นที่ แต่สำคัญ คือ จะต้องไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นจุดขายสำคัญที่จะต้องช่วยกันดูแลเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ส่วนข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะเข้าไปดูแลเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ และสอดคล้องกับแนวทางในการส่งเสริมการลงทุน”
นายตรี ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากกลุ่มทุนจากประเทศฮ่องกงแล้ว ปัจจุบันทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในภูเก็ตยังมีจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งให้ความสนใจมาลงทุนเรื่องของรถไฟฟ้าจำนวนประมาณ 2-3 บริษัท ประเทศเกาหลีสนใจเรื่องการก่อสร้างอุโมงค์ป่าตอง และสิงคโปร์ที่เข้ามาสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งกลุ่มทุนจากประเทศรัสเซีย ปัจจุบันได้เข้ามาลงทุนด้านโรงแรมที่พัก โดยส่วนใหญ่มีเม็ดเงินพร้อม ทั้งนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลที่มีการศึกษาไว้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามนายตรี ยอมรับว่า ในส่วนของอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน คงหนีไม่พ้นเรื่องประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะปัจจุบันการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA จะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมส่วนกลางเป็นผู้พิจารณาจากเดิมที่สามารถพิจารณาในระดับจังหวัดได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 6 เดือน แต่เนื่องจากการหลักเกณฑ์ดังกล่าวพึ่งนำมาใช้บังคับใช้จึงยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าหากใช้เวลานานจริงภาคเอกชนก็คงจะยื่นคำร้องเข้ามา และทางจังหวัดก็คงต้องมีการนำเสนอเพื่อให้มีการทบทวนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น