เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 54 พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผกก.สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ร่วมกันตรวจยึดสินค้าปลอมแปลงและลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เช่น เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา เป็นต้น ยี่ห้อต่างๆ เช่น ลาคอร์ด อาดิดาส โปโล เป็นต้น ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จำนวน 3 จุด ได้แก่บริเวณล็อคหรือแผงลอยแบ่งเช่าจิตนาพล่าซ่า กับซอยต้นสน ถนนทวีวงศ์หรือถนนสายหน้าชายหาดป่าตอง และบริเวณศูนย์การค้าโอทอป ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี
ซึ่งในแต่ละจุดที่มีการเข้าตรวจค้นจะมีการแบ่งพื้นที่ให้เช่าเป็นล็อคขนาดประมาณ 4x1 เมตร ซึ่งมีบางล็อครู้ตัวก็ปิดร้านไปก่อน โดยได้ของกลางประเภทต่างๆ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา เป็นต้น จำนวนประมาณร่วม 100,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหาอีกจำนวนหนึ่ง ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดสินค้าบรรดาเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวไทยและลูกจ้างซึ่งเป็นต่างด้าวรวมตัวกันติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า จากนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้มีการประชุมหารือร่วมกัน และโดยการสั่งการของพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ปป. และพล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผช.ผบ.ตร.ในฐานะ รอง ผอ.ศปลป.(ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้มีการดำเนินการกวาดล้างจับกุมผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกจับตามมองและถูกระบุจากประเทศสหรัฐอเมริกาว่ามีการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาสูงเป็นอันดับต้นๆ
“การระดมกวาดล้างในครั้งนี้ถือเป็นการกวาดล้างครั้งใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าตองซึ่งมีปัญหาค่อนข้างมาก แม้ที่ผ่านมาทางพื้นที่จะมีการดำเนินการกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบดำเนินการ โดยได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น จำเป็นที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเรียนให้เท่าทัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีที่มีผู้ประกอบการค้าออกมาระบุว่ามีการรับส่วยของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานแล้วทำไมยังมีการจับกุมกันอีก และเคยมีการรวมตัวกันประท้วงด้วย ซึ่ง พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า กรณีที่มีการจ่ายเงินทองกันเพื่อให้สามารถค้าขายได้อย่างอิสระนั้น คงไม่สามารถที่จะไปห้ามผู้ที่จะรับหรือผู้ที่จะจ่ายได้ แต่เมื่อมีการตรวจสอบและพบว่ามีการกระทำผิดก็จะต้องว่ากันไปตามกฎหมาย และในการกวาดล้างจับกุมเรื่องของสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นั้นจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม เป็นต้น และนอกจากพื้นที่ป่าตอง ก็ยังมีพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ อีก จะมีการดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ค.54) ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรกะทู้ ร่วมกับชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้มีการกวาดล้างจับกุมร้านจำหน่ายแผ่นดีวีดีกอบปี้ ซึ่งได้ของกลางร่วม 100,000 แผ่นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น