จับพ่อค้าลักลอบค้าซากกัลปังหา
นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 5 (จ.ภูเก็ต) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาทางศูนย์อนุรักษ์ฯ ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่ลักลอบจำหน่ายซากกัลปังหาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 20 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ซึ่งมีโทษตามมาตรา 47 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี่ หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“แม้ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่อง แต่จากการติดตามและตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่ายังมีบุคคลที่ทำการลักลอบจำหน่ายซากกัลปังหา ซึ่งล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ ได้รับแจ้งจากอาสาสมัครในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ว่ามีพ่อค้าลักลอบจำหน่ายกำไลที่ทำจากซากกัลปังหาที่บริเวณตลาดนัดตำบลเชิงทะเล”
นายไพทูลกล่าวด้วยว่า จากการนำกำลังไปตรวจสอบยังจุดที่ได้รับแจ้ง ปรากฏพบนายโกมล พัฒน์จร อยู่บ้านเลขที่ 303/2 หมู่ 2 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี กำลังทำการจำหน่ายกำไลข้อมือซึ่งทำจากซากกัลปังหา จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง 2 รายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กำไลข้อมือทำด้วยกัลปังหา จำนวน 120 ชิ้น และซากกัลปังหาจำนวน 20 ชิ้น โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า มีไว้ครอบครองเพื่อค้าซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าสงวนซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ. ศ. 2535 ตามมาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น