เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองป่าตอง นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายในกรณีแรงงาน/ขายบริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายนภดล พลอยอยู่ดี จัดหางานจังหวัดภูเก็ต นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
การประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากมีผู้ใช้นามว่า ประชาชนคนภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับจังหวัดภูเก็ตขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันในการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวชาวลาว พม่า และเวียดนาม มาบังคับใช้ขายแรงงานและขายบริการ บริเวณใต้ห้างสรรพสินค้าจังซีลอน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยบังคับขายแรงงานและบังคับให้ขายบริการโดยมีนายตำรวจรายหนึ่งรู้เห็นเป็นใจให้ความสะดวกคุ้มครองและค้าแรงงานผู้หญิงพวกนี้ โดยมีนายตำรวจที่มีระดับใหญ่กว่าเป็นคนไฟเขียวให้ดำเนินการอีกทอดหนึ่ง ขณะเดียวกันจะมีผู้ที่จัดหาผู้หญิงเป็นคนจัดการอยู่เบื้องหลังเป็นคนเก็บเงินเป็นรายหัวรายคน คนละ 3000-5000 บาท ทั้งยังเอาผู้หญิงให้บุคคลที่ซื้อบริการทั้งไทยและชาวฝรั่ง ตามร้านอาหารและร้านอบนวดที่แฝงการบริการที่เปิดกันมากในพื้นที่ป่าตอง บางร้านก็อยู่ใกล้โรงพักไม่ถึง 100 เมตร ซึ่งถ้าปล่อยไว้เช่นนี้ป่าตองและจังหวัดภูเก็ตคงไม่เหลือความงดงาม คุณค่าและน่าท่องเที่ยวอีกต่อไป
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดความชัดเจน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จัดหางานจังหวัดภูเก็ต นายอำเภอกะทู้ หัวหน้าตำรวจสันติบาลจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ปลัดอำเภอในพื้นที่ผู้รับมอบหมาย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมคณะทำงาน คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายในกรณีแรงงงาน/ขายบริการในพื้นที่ป่าตอง โดยมีหน้าที่ตรวจสอบหาข้อมูลข้อเท็จจริงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งหารือให้ชัดเจนตามอำนาจหน้าที่ รวมถึงดำเนินการอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งในประเด็นแรงงานต่างด้าวนั้น ต้องมองให้รอบด้านถึงภาพรวมของธุรกิจการท่องเที่ยวก่อนที่จะลงมือดำเนินการ ส่วนประเด็นของการขายบริการทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบเร่งดำเนินการและทำเป็นระบบ ขั้นตอนตามกฎหมายให้ถูกต้อง ตลอดจนต้องดำเนินการลงตรวจสอบจับกุมในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้จะได้มีการทำหนังสือแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อน 15 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินการแก้ไข เพราะไม่ต้องการให้กระทบกับบรรยากาศของการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ก็จะได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจลงไปตรวจสอบอีกครั้งว่าหลังจากแจ้งไปแล้วมีการดำเนินการอย่างใดบ้าง และหากพบว่ายังคงมีการทำผิดอยู่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้จะต้องนำเสนอแนวทางดังกล่าวเพื่อขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น