เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 ที่ห้องใบเรือ โรงแรมโบ๊ทลากูน รีสอร์ท นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดพิธีการประชุมโครงการประชุมชี้แจงให้ความรู้งานประกันสังคม โดยมีนายสงวน วงศ์สัมพันธ์สุข ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต นายสุทธิพงศ์ สายสาคเรศ แรงงานจังหวัดภูเก็ต นายนพดล พลอยอยู่ดี จัดหางานจังหวัดภูเก็ต นายกิตติพงษ์ เหล่านิพนธ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายสงวน กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม มีภารกิจหลักในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ทำหน้าที่การให้ความคุ้มครอง สร้างหลักประกันสังคมแก่นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน กองทุนประกันสังคม จึงกำหนดให้การคุ้มครองและสร้างหลักประกันแก่นายจ้าง ผู้ประกันตนด้วยสิทธิประโยชน์ 7 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพและกรณีว่างงาน ซึ่งปัจจุบันจังหวัดภูเก็ต มีนายจ้างและสถานประกอบการเข้าข่ายตามกฎหมาย ได้ขึ้นทะเบียนจำนวน 8,864 แห่ง มีลูกจ้างและผู้ประกันตน จำนวน 134,152 คน ทั้งนี้ข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติในการขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนเพื่อให้ลูกจ้างผู้ประกันตนหรือผู้มี สิทธิสามารถใช้สิทธิได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน มุ่งเสริมให้มีนายจ้าง ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน สถานพยาบาล และเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ส่งผลให้เกิดการพัฒนางาน เพิ่มประสิทธิภาพในด้านการประกันสังคมให้สอดคล้องต่อความต้องการ และเกิดความพึงพอใจสูงสุด
ด้านนายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันนานาประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ต่างหันมาให้ความสำคัญด้านการจัดสวัสดิการทางสังคมให้แก่ประชาชนของตน ทำให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีหลักประกัน เกิดความมั่นคงในการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ระบบประกันสังคมจึงเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้น ทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการพัฒนาการสู่การศึกษาที่ดี ลดช่องว่างของผู้ด้อยโอกาสให้มีมาตรฐานการดำรงชีวิตที่เท่าเทียม โดยอาศัยระบบประกันสังคมเข้ามาคุ้มครอง สร้างหลักประกันภายใต้สิทธิประโยชน์และเงินทดแทนในกรณีต่าง ๆ ได้แก่ การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ทั้งจากการทำงานและการไม่ทำงาน กรณีคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และกรณีว่างงาน และสิ่งสำคัญอีกประการ คือ โลกปัจจุบันเป็นยุคของการสื่อสารที่ไร้พรมแดน เชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่ายไร้ขีดจำกัด การทำงานก็จะก้าวทันโลก สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ สร้างเครือข่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องในจังหวัด นำไปสู่การพัฒนาระบบการให้บริการมีประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น