เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ฟังบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬา จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยมีนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และคณะ ร่วมให้การต้อนรับ
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬา (มารีน่า) พร้อมอาคารส่วนประกอบอ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จะประกอบด้วย 1.อาคารอเนกประสงค์ เพื่อรองรับการให้บริการในด้านต่างๆ ของหน่วยงานราชการในลักษณะวันสต็อปเซอร์วิส ในการตรวจลงตราและแจ้งเข้า-ออก และ 2.ช่องจอดเรือจำนวน 44 ลำ รวมใช้งบดำเนินการประมาณ 70 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการจัดระเบียบการจราจรของเรือบริเวณอ่าวฉลอง ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งสมอ หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถควบคุมดูแลด้านความมั่นคงได้ด้วย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดแจ้งเข้า-ออกเรือสำราญกีฬาหรือเรือยอช์ทต่างๆ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 90 % คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2555 จากนั้นจะส่งมอบให้กับกรมธนารักษ์เพื่อมอบต่อให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้บริหารจัดการต่อไป
นอกจากนี้นายภูริพัฒน์ ยังได้กล่าวถึงการจัดทำระบบจีพีเอสติดตามเรือยอร์ชด้วยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ได้ของบประมาณจากทางจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 18 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2556 เพื่อทำระบบจีพีเอสติดตามเรือยอร์ช ซึ่งจะทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของเรือแต่ละลำที่อยู่ในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ต และสามารถใช้ในเรื่องของการดูแลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงด้วย
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า นโยบายที่ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะดำเนินการโดยด่วน คือการโอนทรัพย์สินท่าเรือแห่งใหม่นี้ให้กับ อบจ.ภูเก็ต ซึ่งเดิมที จะโอนให้กรมธนารักษ์ ก็คิดว่าถ้าโอนให้ อบจ.ภูเก็ต ประมาณ 5 ปี โดยไม่ต้องแบ่งรายได้ให้กับกรมธนารักษ์เราสามารถดำเนินการให้ได้ เพราะว่าระเบียบกรมธนารักษ์กล่าวไว้ว่าต้องแบ่งรายได้ให้กรมธนารักษ์ไว้ครึ่งหนึ่ง นั่นคือปัญหาของท้องถิ่นเรา
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.กระทวงคมนาคม กล่าวภายหลังการฟังบรรยายสรุปว่า การก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬาดังกล่าว ขณะนี้ก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2555 ทั้งนี้หลังก่อสร้างแล้วเสร็จจะมอบให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเข้ามาดูแลต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น