เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 หน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านใกล้ท่าเรือยอร์ชเฮฟเว่น ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ภูเก็ต ว่า ได้มีเต่าได้รับบาดเจ็บขึ้นมาเกยตื้น บริเวณชายหาดท่าเรือยอร์ชเฮฟเว่น หลังรับแจ้งก็ได้รายงานไปยังสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมทั้งเดินทางไปยังจุดที่ได้รับแจ้ง
โดยที่บริเวณดังกล่าว เป็นท่าเทียบเรือยอร์ช ซึ่งเป็นท่าเรือของเอกชน เมื่อเดินทางถึงก็พบชาวบ้านกำลังมุงดูเต่าตัวดังกล่าว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รีบนำเต่าตัวดังกล่าวขึ้นรถ เพื่อนำส่งสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน
ทั้งนี้น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโมง นายสัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นเต่าตนุ ยังไม่ทราบเพศ อายุประมาณ 10 – 15 ปี น้ำหนักประมาณ 20 – 25 กิโลกรัม กว้างประมาณ 60.4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 60 เซนติเมตร อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรง มีอาการอ่อนเพลีย หัวไม่ชูขึ้นเหนือผิวน้ำ จึงได้ฉีดยาปฏิชีวนะและให้ยาบำรุง เพื่อรอดูอาการ คาดว่าน่าจะป่วยและมีอาการติดเชื้อ
น.ส.พัชรากรณ์ ยังกล่าวอีกว่า อาการของเต่าตนุเบื้องต้น พบว่ามีการเคลื่อนตัวได้ช้า ว่ายน้ำแทบไม่ได้ มีตะไคร้เกาะติดบริเวณกระดองโดยรอบ แสดงให้เห็นว่าขึ้นมาเกยตื้นที่ชายหาดเป็นเวลานานพอสมควร นอกจากนี้ไม่สามารถชูคอให้พ้นขึ้นมาเหนือน้ำได้ จึงเป็นอาการที่น่าห่วง ซึ่งจะต้องติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดว่าป่วยเป็นอะไร แต่จากประสบการณ์ที่พบอาการป่วยของเต่าที่มาเกยตื้นบริเวณชายหาด ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการกินถุงพลาสติกเข้าไปในกระเพาะมากเกินไป ด้วยคิดว่าเป็นแมงกะพรุน ทำให้พลาสติกไม่ย่อย ทำให้ไม่มีแรงว่ายน้ำหรือดำรงชีพ และตายในที่สุด ซึ่งในรอบปี 2554 พบเต่าตนุทั้งที่มีชีวิตและซากลอยมาเกยตื้นตามชายหาดรอบๆ ฝั่งทะเลอันดามันจำนวนกว่า 50 ตัว ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าห่วง เพราะหากยังไม่มีการแก้ปัญหาก็อาจจะทำให้เต่าตนุสูญพันธุ์ได้ในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น